คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินบ้านและที่สวนรวม 2 แปลง ราคา 3000 บาท วันโอนกันที่อำเภอผู้ซื้อมีเงินไม่ถึง 3000 บาท จึงตกลงขายที่บ้านแปลงเดียวก่อนตีราคา 2600 บาท ส่วนที่สวนตีราคา 400 บาท นัดโอนกันภายหลัง ดังนี้ย่อมถือได้ว่าคู่กรณีมิได้ตกลงกันเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ให้ผิดแผกไปจากเดิมเลยที่ให้โอนที่บ้านก่อนแล้วจึงมาโอนที่สวนภายหลัง ก็เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อในเรื่องเงิน จำนวนราคาเมื่อรวมกันก็เป็น 3000 บาทเท่าเดิมจึงไม่ใช่เรื่องแปลงหนี้สัญญาจะซื้อขายฉบับเดิมหาได้ระงับไปไม่ ผู้ขายยังมีสิทธิฟ้องบังคับให้ผู้ซื้อซื้อที่สวนในราคา 400 บาทได้

ย่อยาว

คดีได้ความว่า จำเลยได้ตกลงซื้อบ้านและที่สวนรวม ๒ แปลงเป็นราคา ๓๐๐๐ บาทจากโจทก์ ได้ทำหนังสือสัญญากันและจำเลยได้ว่างประจำไว้ด้วย ๕๐๐ บาท โจทก์ยอมให้จำเลยเข้าครอบครองที่ดินที่ซื้อทันที ครั้นถึงวันไปทำสัญญาขายกันที่อำเภอ จำเลยมีเงินไปไม่ครบ คือมีเพียง ๒๐๐๐ บาท เจ้าพนักงานจึงแนะนำให้ทำขายเพียงแปลงเดียวก่อนคือแปลงที่บ้านและตีราคาซื้อขายเป็นเงิน ๒๖๐๐ บาท ส่วนแปลงที่ส่วนตีราคา ๔๐๐ บาท ซึ่งตกลงกันว่าจะไปโอนวันขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๑๒ โจทก์จำเลยตกลงตามนั้นและเงินมัดจำ ๕๐๐ บาท ก็ให้หักไปในราคที่บ้าน ต่อมาถึงกำหนดโอนแปลงที่สวนจำเลยจะคิดราคาที่สวนให้เพียง ๑๐๐ บาทไม่ยอมให้ ๔๐๐ บาทตามที่ตกลงกันโจทก์จึงมีฟ้องคดีนี้ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยซื้อตามที่ตกลงกัน ๔๐๐ บาท และขอค่าเสียหายอีก ๑๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธณ์พิพากษาต้องกันว่าจำเลยผิดสัญญาให้จำเลยซื้อที่ดินโจทก์ในราคา ๔๐๐ บาทกับใช้ค่าเสียหาย ๕๐ บาท
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมาย
ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นคัดค้านมีว่าวันทีโจทก์ทำสัญญาขายที่บ้านให้จำเลยโดยตกลงจะขายที่สวนในราคา ๔๐๐ บาทนั้น สัญญาจะซื้อขายฉบับเดิมระงับไปหรือไม่ เพราะการบังคับให้จำเลยซื้อจะต้องบังคับตามสัญญาฉบับแรกนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่าคู่กรณีมิได้ตกลงเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ให้ผิดแผกไปจากเดิมเลย ที่ให้โอนที่บ้านก่อนแล้วจึงมาโอนที่สวนในภายหลัง ก็เพื่อความสะดวกแก่จำเลยเองในเรื่องเงินจำนวนราคาเพื่อรวมกันก็เป็น ๓๐๐๐ บาทเท่าเดิม ฉะนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามิใช่เรื่องแปลงหนี้และสัญญาจะซื้อขายฉบับเดิมหาได้ระงับไปตามที่จำเลยโต้แย้งไม่
พิพากษายืน

Share