แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามหนังสือรับรองมีข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการว่าในการทำนิติกรรมต่างๆและการสั่งจ่ายเงินในนมของห้างหุ้นส่วนจำกัดว. โจทก์ที่1ให้โจทก์ที่2ลงลายมือชื่อร่วมกับค. และประทับตราสำคัญของโจทก์ที่1ฉะนั้นในการตั้งทนายความซึ่งเป็นการทำนิติกรรมในนามของโจทก์ที่1อย่างหนึ่งโจทก์ที่2จึงต้องลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายความร่วมกับค. และประทับตามสำคัญของโจทก์ที่1ด้วยทนายความจึงมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องในนามโจทก์ที่1ได้ส่วนที่โจทก์ที่2ระบุในคำฟ้องว่าเป็นโจทก์ที่2ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นหุ้นส่วนเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ทั้งสองว่าเงินที่นำไปซื้อทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ที่1โจทก์ที่2ในฐานะหุ้นส่วนจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยให้โอนทรัพย์พิพาทให้โจทก์ทั้งสองได้
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 105791 พร้อมสิ่งปลูกสร้างและที่ดินโฉนดเลขที่51803 มาเป็นชื่อของโจทก์ที่ 1 และหรือโจทก์ที่ 2
จำเลยให้การว่า โจทก์ที่ 1 ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะอำนาจในการทำนิติกรรมต่าง ๆ โจทก์ที่ 2 ต้องร่วมกับนายคมพจน์ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ที่ 1 การที่โจทก์ที่ 1แต่งตั้งทนายความโดยลงลายมือชื่อของโจทก์ที่ 2 แต่เพียงผู้เดียวจึงเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ ตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสองบรรยายว่า ทรัพย์ดังกล่าวเป็นของโจทก์ที่ 1มิใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่ 2 แต่เพียงผู้เดียว โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์ที่ 2 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งสองไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
โจทก์ ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามหนังสือรับรองเอกสารหมาย จ.4มีข้อจำกัดอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการว่า ในการทำนิติกรรมต่าง ๆและการสั่งจ่ายเงินในนามของโจทก์ที่ 1 ให้โจทก์ที่ 2ลงลายมือชื่อร่วมกับนายคมพจน์ คุณาเรืองเดชและประทับตราสำคัญของโจทก์ที่ 1 ฉะนั้นในการตั้งทนายความซึ่งเป็นการทำนิติกรรมในนามของโจทก์ที่ 1 อย่างหนึ่ง โจทก์ที่ 2จึงต้องลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายความร่วมกับนายคมพจน์และประทับตราสำคัญของโจทก์ที่ 1 ด้วย ทนายความจึงจะมีอำนาจลงชื่อในคำฟ้องในนามโจทก์ที่ 1 ได้ ส่วนที่โจทก์ที่ 2ตั้งทนายความเข้ามาด้วยและระบุในคำฟ้องว่าเป็นโจทก์ที่ 2ฟ้องจำเลยในฐานะเป็นหุ้นส่วน เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ทั้งสองว่า เงินที่นำไปซื้อทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนจึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยให้โอนทรัพย์พิพาทให้โจทก์ทั้งสอง
พิพากษายืน