คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยต้มกลั่นสุรามีภาชนะเครื่องต้มกลั่นสุราและสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสุรา มาตรา 5, 30, 32 แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 30 มาตราเดียว ดังนี้ เป็นการลงโทษเฉพาะกระทงที่หนักที่สุดไม่ใช่เรื่องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยต้มกลั่นสุรามีภาชนะเครื่องต้มกลั่นสุราและสุราไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30, 32, 45 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 4, 6และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลจังหวัดลำปางพิพากษาตามความเห็นของศาลแขวงลำปางว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำเลยฐานทำสุรา ตามมาตรา 5 ซึ่งเป็นบทหนัก ปรับ 4,000 บาท ลดให้ 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงปรับจำเลย 3,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น แต่ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานทำสุราตามมาตรา 5 ซึ่งเป็นบทหนักนั้น ที่ถูกจะต้องเป็นกระทงที่หนักที่สุด

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30, 32 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 4, 6 แต่ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรามาตรา 5 และ 30 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมซึ่งเป็นกระทงหนักที่สุด ให้ปรับจำเลย 4,000 บาท ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสี่ คงปรับจำเลย3,000 บาท ถ้าไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 ของกลางให้ริบตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493มาตรา 45

Share