แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บิดายกทรัพย์ให้แก่บุตรสาวโดยเสน่หาแล้วต่อมาบุตรสาวได้ด่าว่าบิดาว่าเอาบุตรสาวอีกคนหนึ่งเป็นเมีย จึงเป็นการหมิ่นประมาทบิดาผู้ให้อย่างร้างแรง เป็นเหตุให้เรียกถอนคืนหารให้ เพราะผู้รับประพฤติเนรคุณได้
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๙ โจทก์ได้โอนที่ดินแปลงหนึ่งให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นบุตรสาวโดยเสน่หา แล้วจำเลยไม่ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ และได้บังอาจด่าว่าหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง จึงขอให้เพิกถอนการให้ที่แปลงนั้นเสีย
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ยกที่พิพาทให้โดยมีค่าตอบแทน และจำเลยไม่เคยด่าว่าโจทก์เลย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ถอนคืนการให้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกา ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้โอนที่พิพาทให้จำเลยโดยเสน่หา ไม่ได้รับค่าตอบแทนจำเลยโกรธว่าโจทก์จะโอนที่บ้านให้นางสาวชลอบุตรโจทก์ได้ด่าว่าโจทก์ว่า ” อ้ายหน้าลิงจุ่น มึงจะเอาอีชลอเป็นเมีย กูไม่นับถือมึงเป็นพ่อต่อไป ” ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยด่าโจทก์ เอาบุตรสาวเป็นเมียนั้น เป็นถ้อยคำที่ไม่มีสตรีคนใดจะพึงกล่าวว่าโจทก์ซึ่งเป็นบิดา จึงเป็นการหมิ่นประมาทอยางร้ายแรง ศาลล่างพิพากษามาชอบแล้ว พิพากษายืน