แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้จ้างรถยนตร์บันทุกข้าวสารออกนอกเขตต์ห้ามขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปรากฎว่าเจ้าของรถยนตร์ ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดแล้ว ก็ต้องคืนรถยนตร์ให้แก่เจ้าของรถยนตร์ไป
จำเลยจ้างรถยนตร์บันทุกข้าวสารออกนอกเขตต์ห้ามขนย้ายข้าว โดยเจ้าของรถได้ถามจำเลยว่ามีใบอนุญาตไหม จำเลยว่ามีแล้ว เจ้าของรถจึงรับจ้างบันทุกไป ดั่งนี้ ฟังได้ว่า เจ้าของรถมิได้กระทำผิดร่วมกับจำเลย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยที่ ๒ ได้นำรถยนตร์ของตนรับจ้างบันทุกข้าวสารของจำเลยที่ ๑ ออกนอกเขตต์จังหวัดนครปฐมโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ และริบของกลาง จำเลยที่ ๑ รับสารภาพ แต่จำเลยที่ ๒ ปฏิเสธว่ามิได้สมคบกับจำเลยที่ ๑ เป็นแต่จำเลยที่ ๑ มาจ้างรถยนตร์ให้บันทุกข้าวสารไปที่บ้านโป่งและจำเลยที่ ๑ ว่ามีใบอนุญาตแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ปรับจำเลยคนละ ๒๐๐๐ บาท ลดโทษจำเลยที่ ๑ กึ่งหนึ่ง , จำเลยที่ ๒ หนึ่งในสี่ คงปรับจำเลยที่ ๑, ๑๐๐๐ บาท จำเลยที ๒, ๑๕๐๐ บาท ข้าวสาร รถยนตร์ริบ และจ่ายเงินรางวัลนำจับ
ศาลอุทธรณ์แก้ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ คืนรถยนตร์ให้จำเลยที่ ๒
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ มาจ้างจำเลยที่ ๒ ให้บันทุกข้าวสารไปบ้านโป่ง จำเลยที่ ๒ ก็ถามว่ามีใบอนุญาตไหม จำเลยที่ ๑ ว่ามีแล้ว และในวันที่บันทุกข้าวสารรายนี้ไปก็เป็นเวลากลางวัน คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ ได้สมคบกับจำเลยที่ ๑ กระทำผิดด้วย
พิพากษายืน