แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา ม.259 และ พ.ร.บ.รถยนต์และ พ.ร.บ.จราจรให้จำคุก 3 เดือน ตามกฎหมายอาญา ม.259 ซึ่งเป็นบทหนัก ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.จราจร ให้ปรับ 5 บาท คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยขับรถยนตร์สาธารณะผิดทางและปิดทางเสีย เจ้าทุกข์ขี่รถจักรยานจะหลีกรถจำเลยแต่หลีกไม่ทันจึงชนเอาเป็นเหตุให้เจ้าทุกข์มีบาดเจ็บสาหัส จึงมีผิดตามกฎหมายอาญา ม.๒๕๙ พระราชบัญญัติรถยนตร์ ร.ศ.๑๒๘ ม.๑๙ กับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ๒๔๗๗ ม.๙,๖๖ ให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๒๕๙ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก ๓ เดือน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสาเหตุที่รถจะเกิด+มิได้เกิดจากความประมาทของจำเลยยังไม่พอจะลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๒๕๙ ได้ แต่จำเลยควรมีผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ม.๙,๖๖ ให้ปรับ ๕ บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะแก้ไขมากก็ตาม คดีก็เข้าประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๒๒๐ ซึ่งโจทก์จะฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ และคงเห็นด้วยว่าอันตรายที่เจ้าทุกข์ได้รับมิได้เกิดจากความประมาทของจำเลยที่ขับรถผิดทาง จะลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๙ มิได้ พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์