คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2481

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดสำรางสาธารณะ เมื่อทางพิจารณาโจทก์นำสืบไม่สมเช่นว่านั้นศาลต้องยกฟ้อง ถึงแม้โจทก์จะสืบถึงประเด็นอย่างอื่นก็ตามก็ไม่ต้องวินิจฉัยการฟ้องขอให้เปิดลำน้ำสาธารณะนั้น เมื่อปรากฎว่าลำน้ำไม่ใช่ลำน้ำสาธารณะแล้วผู้มีประโยชน์ส่วนได้เสียเท่านั้นที่มีสิทธิฟ้องร้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยนำดินมาถมปิดปากสำรางโดยไม่มีสิทธิจะทำได้ โดยสำรางนี้เป็นสำรางสาธารณะสำหรับสาธารณะชนอาศัยสัญจรไปมาและสำหรับใช้น้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว ทำให้เกิดการเสียหาย ขอให้บังคับให้จำเลยรื้อดินปิดปากสำรางให้คืนสู่สภาพเดิม
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาว่าจำเลยปิดสำรางสาธารณะทำให้เกิดการเสียหายแก่สาธารณะชน พิพากษาให้จำเลยรื้อดินและสิ่งที่กระทำลงในสำรางนั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าตามพะยานหลักฐานของโจทก์แสดงไม่ได้ว่าสำรางนี้เป็นทางสาธารณแต่อย่างไร ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำพะยานเอกสารของโจทก์ที่เขียนว่าสำรางสาธารณนี้เพิ่งมาปรากฎขึ้นภายหลังคือ พ.ศ.๒๔๗๙ โดยเจ้าพนักงานที่ดินเขียนลงโดยคำรับรองของที่ดินข้างเคียงแต่ผู้แทนบริษัทจำเลยได้ปฏิเสธเช่นนี้ การที่เจ้าพนักงานเขียนไว้เช่นนั้นก็โดยความเข้าใจผิดจึงไม่มีผลอย่างไร และตามคำพะยานโจทก์การใช้สำรางนี้เป็นประโยชน์ก็แต่ฉะเพาะที่ดินข้างเคียงอันมีจำนวนจำกัดเท่านั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์มหาชนจึงชอบที่ผู้เสียหายจะฟ้องร้องเอาเอง เมื่อโจทก์ฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยปิดลำน้ำสาธารณเท่านั้น ถึงแม้จะสืบว่าลำน้ำนี้อยู่นอกเขตต์โฉนดก็ตามเป็นการนอกประเด็นไม่จำต้องวินิจฉัย แต่เมื่อประเด็นว่าลำน้ำรายพิพาทนี้เป็นลำน้ำสาธารณประโยชน์หรือไม่แล้ว เมื่อโจทก์สืบไม่สมจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฎีกาโจทก์เสีย

Share