คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาที่กรรมการบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อในสัญญาไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อจึงจะผูกมัดบริษัท กรรมการที่ลงชื่อโดยไม่ถูกต้องตามข้อบังคับบริษัทนั้นจึงไม่อยู่ในฐานะผู้แทนของบริษัท สัญญานั้นจึงไม่ผูกมัดบริษัท แต่เมื่อบริษัทได้ให้สัตยาบันสัญญานั้นโดยเข้าครอบครองทรัพย์ตามสัญญานั้นแล้วเมื่อใดกรรมการผู้มีชื่อในสัญญานั้นก็กลับมีฐานะเป็นตัวแทนของบริษัท จึงผูกพันบริษัทตามลักษณะตัวการตัวแทนตามมาตรา 823

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เช่าเครื่องใช้ในสำนักงานโจทก์เลขที่ 1632 ปากตรอกท่าหวั่งหลี จังหวัดพระนคร เพื่อใช้ดำเนินกิจการของจำเลยซึ่งโจทก์ได้เช่ามาจากกรมการศาสนา ต่อมาโจทก์ได้ตกลงโอนการเช่าตึกพร้อมทั้งเครื่องใช้ในสำนักงานที่จำเลยเช่านี้ให้แก่จำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 521/2496 แต่จำเลยยังมิได้รับมอบการโอนไป กรรมสิทธิ์ในเครื่องใช้ยังเป็นของโจทก์อยู่ จำเลยค้างค่าเช่ารวมเป็นเงิน 8,000 บาท ขอให้บังคับ

จำเลยต่อสู้หลายประการ ที่สำคัญ ๆ คือ สัญญาเช่ารายนี้ไม่ผูกพันจำเลย เพราะตามคำขอจดทะเบียนของจำเลยมีอยู่ว่ากิจการใดที่จะผูกพันจำเลยจะต้องมีกรรมการลงชื่อ 2 นาย และต้องประทับตราของจำเลยด้วย สัญญาเช่ารายนี้มีพันโทหลวงชัยอัศวรักษ์กรรมการลงนามเพียงนายเดียว จึงไม่ผูกพันจำเลย

ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24

วันชี้สองสถาน โจทก์จำเลยต่างแถลงไม่ติดใจสืบพยานขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายเบื้องต้นตามคำร้องจำเลย

ศาลแพ่งวินิจฉัยว่าบริษัทจำเลยได้จดทะเบียนไว้ว่า กิจการใดที่กรรมการ 2 นายลงลายมือชื่อจะต้องประทับตราด้วยบริษัทจึงจะต้องรับผิดชอบ เมื่อสัญญานี้มีผู้เซ็นแต่กรรมการคนเดียวไม่เป็นไปตามที่จดทะเบียนไว้ บริษัทจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ยังจะถือไม่ได้ว่าหลวงชัยอัศวรักษ์กรรมการบริษัทจำเลยได้ทำสัญญาเช่าเครื่องใช้ในสำนักงานของโจทก์ในฐานะผู้แทนบริษัทจำเลยซึ่งเป็นนิติบุคคล เพราะไม่ครบองค์คณะกรรมการ 2 คนก็ตาม ก็ยังถือได้ว่าหลวงอัศวรักษ์กรรมการได้ทำสัญญาเช่าเครื่องใช้ในสำนักงานของโจทก์ในฐานะตัวแทนบริษัทจำเลยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 และบริษัทจำเลยได้ให้สัตยาบันโดยเข้าครอบครองใช้ประโยชน์เครื่องใช้ในสำนักงานของโจทก์ที่หลวงชัยอัศวรักษ์กรรมการตัวแทนบริษัทจำเลยเช่ามาตามสัญญา แม้หลวงชัยอัศวรักษ์กรรมการบริษัทจำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์โดยปราศจากอำนาจบริษัทจำเลยก็ยังอาจต้องรับผิดตามสัญญานั้นต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 823

พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

Share