คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1346/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุคคลสองคนทำสัญญาจะซื้อที่ดินแปลงเดียวกันและต่างฟ้องคดีของให้ผู้ขายโอนที่ดินให้แก่ตน แม้ผู้ทำสัญญาทีหลังจะฟ้องคดีก่อน ศาลก็สั่งงดรอคดีไว้ และพิพากษาให้โอนที่ดินแก่ผู้ทำสัญญาก่อนได้
อ้างฎีกาที่ 641/2470

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐ จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่นายกุ้นจิ้นต่อมา พ.ศ.๒๔๘๑ จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินแปลงนั้นให้แก่โจทก์ โจทก์มาฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดิน ถ้าไม่สามารถโอนได้ก็ขอให้บังคับจำเลยส่งผลกำไร ๑,๖๐๐ บาทในฐานผิดสัญญา ในระหว่างพิจารณาคดีนี้นายกุ้นจิ้นได้ยื่นฟ้องจำเลยขอให้โอนที่ดินให้แก่นายกุ้นจิ้น ศาลชั้นต้นจึงให้งดรอการพิพากษาคดีนี้ไว้ และในคดีที่นายกุ้นจิ้นฟ้องนั้น ศาลพิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้แก่นายกุ้นจิ้น แล้วศาลพิพากษาคดีนี้ว่า ศาลพิพากษาให้โอนที่ดินให้แก่นายกุ้นจิ้นแล้ว จะบังคับให้จำเลยโอนที่ดินในคดีนี้ไม่ได้ จึงให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๑,๖๐๐ บาท.
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๑๗ บัญญัติให้ศาลดำเนินการไปตามลำดับเลขหมายในสำนวนก็จริง แต่ตอนท้ายยอมให้ศาลกำหนดเป็นอย่างอื่นเมื่อมีเหตุพิเศษ คดีนี้ปรากฏแก่ศาลว่า มีคดีฟ้องจำเลยขอให้โอนที่รายเดียวกันซึ่งจำเลยทำสัญญาไว้ก่อนคดีนี้ ฉะนั้นที่ศาลล่างงดรอคดีและพิพากษามานั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืน.

Share