คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เช่าไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่า การที่จะจัดการให้จำเลยผู้ซึ่งไม่ได้เช่าที่ดินส่วนนั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดิน ผู้เช่าไม่มีอำนาจฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 774-776/2505)
เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ก็ต้องยกฟ้องโจทก์โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อโต้เถียงอื่นๆ ต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าที่ดินโรงเรียนการประมงของโรงเรียนวัดคลองใหญ่เป็นที่ดินที่นายตึ้งบิดาโจทก์เคยเช่าปลูกสร้างโรงเรือนไว้ก่อน ต่อมาบริษัทอุตสาหกรรมปลาเค็ม จำกัด ฟ้องบิดาโจทก์ บิดาโจทก์แพ้คดีถูกยึดสิ่งปลูกสร้างที่ปลูกไว้ในที่นั้นขายทอดตลาด โจทก์ซื้อโรงทำปลาเค็ม 1 หลังกับเรือนอยู่อาศัย 1 หลังได้ ส่วนจำเลยซื้อเรือนโรง 2 ห้องกับบ้านเรือนไว้ได้ในการขายทอดตลาดครั้งหลัง การขายทอดตลาดครั้งหลังเจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้แก่ผู้เข้าประมูลซื้อว่า ผู้ใดซื้อได้จะต้องรื้อถอนออกไปแต่จำเลยก็ไม่ได้รื้อถอนออกไปกลับทำรั้วสังกะสีปิดกั้นรอบบริเวณทรัพย์ที่ซื้อไว้นั้นเพิ่มขึ้น ทำให้โจทก์ผู้เช่าที่ดินไม่อาจใช้ที่ดินนั้นให้เกิดประโยชน์ในการประมงได้ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนทรัพย์ที่ประมูลซื้อได้ และที่ทำเพิ่มเติมขึ้น ออกไปจากที่ดินที่จำเลยเช่า กับให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ระบุว่าที่ดินที่เช่าอยู่ตรงไหน เนื้อที่เท่าใด สัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ โรงเรือนที่จำเลยประมูลซื้อไว้ได้อยู่นอกเขตที่ดินที่โจทก์ทำสัญญาเช่า

ศาลชั้นต้นเห็นว่า สัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ โจทก์ยังไม่ได้เข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าเพราะนายตึ้งยังครอบครองทรัพย์นั้นแทนเจ้าพนักงานบังคับคดีอยู่ ชอบที่โจทก์จะขอให้ผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วย โจทก์จะฟ้องคดีเองหาได้ไม่ เพราะโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า ทรัพย์ที่โจทก์ซื้อไว้จากการขายทอดตลาดปลูกอยู่ในที่ดินของกรมสามัญศึกษา ในที่ดินเนื้อที่ไม่เกิน 40 ตารางวา ทรัพย์อย่างอื่นที่จำเลยซื้ออยู่นอกเขตที่ซึ่งโจทก์เช่า โจทก์ไม่มีสิทธิหวงห้าม พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมาว่าทรัพย์ที่จำเลยซื้อไว้ก็ปลูกอยู่ในเขตที่ดินที่โจทก์เช่าเช่นเดียวกัน

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โรงเรือนที่จำเลยซื้อปลูกอยู่ในที่ดินที่โจทก์ทำสัญญาเช่าแต่ไม่ได้ความว่าโจทก์เข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่านั้น อันจะถือว่าโจทก์ได้เข้าใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าแล้วถูกจำเลยขัดขวางการใช้สิทธิในการเช่าของโจทก์ในภายหลัง ตามฟ้องก็บรรยายเพียงว่าจำเลยไม่รื้อถอนทรัพย์ที่ซื้อออกไปจากที่ดินตามเงื่อนไขของเจ้าพนักงานบังคับคดีก็เมื่อกรณีเป็นเช่นนี้ การที่จะจัดการให้จำเลยผู้ซึ่งไม่ได้เช่าที่ดินส่วนนั้นรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ย่อมเป็นอำนาจของเจ้าของที่ดินเพราะสิ่งปลูกสร้างในที่ดินซึ่งจำเลยรับโอนมานั้นได้มีอยู่ก่อนโจทก์เช่าที่ดินแปลงนี้และการที่จำเลยทำรั้วสังกะสีกั้นบริเวณก็สืบเนื่องจากทรัพย์นั้นเป็นประมาณ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ดังนั้น ถึงแม้ฎีกาโจทก์จะฟังขึ้นว่าที่ตั้งของโรงเรือนที่จำเลยรับซื้อไว้จะอยู่ในที่เช่าของโจทก์ก็ดีแต่เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องดังกล่าวแล้ว ก็ต้องยกฟ้องโจทก์โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้อโต้เถียงอื่น ๆ ต่อไป

พิพากษายืน

Share