คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยได้นำข้อความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จเบิกความที่ศาลแพ่งในคดีก่อน ความเท็จที่จำเลยเบิกนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี โดยไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าในคดีดังกล่าวมีข้อพิพาทกันเรื่องอะไร ประเด็นสำคัญแห่งคดีมีว่าอย่างไร ข้อที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในคดีนี้เป็นข้อสำคัญในคดีก่อนอย่างไร ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำข้อความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จเบิกความที่ศาลแพ่งในคดีหมายเลขแดงที่ 4254/2517 ว่า “เฉพาะรายนี้ข้าพเจ้าเคยไปทำแผนที่สังเขปและประเมินราคาไว้ตามระเบียบ โดยได้รับคำสั่งจากนายชื้นเมือง โกมารกุลณ นคร เมื่อราววันที่ 3 มิถุนายน 2514 นางรัมภา ธรรมวิรัตน์ จำเลยที่ 1 และน้องชายไปรับข้าพเจ้าที่ธนาคารจำเลยพร้อมกับตัวโฉนด ไปถึงที่ดินแล้วมีคนอีก 2 คน อยู่ ณ ที่นั้นด้วย ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินในอำเภอตลิ่งชัน ติดถนนสุขาภิบาลสาย 2 นางรัมภา ธรรมวิรัตน์ เป็นผู้ชี้เขตและหลักเขตให้ดู หลักเขตนั้นตรงกับหลักเขตในโฉนด 3 หลัก น่าเชื่อว่าหลักเขตถูกต้องเพราะเป็นหลักเก่า ไม่มีลักษณะว่าได้มีการเคลื่อนย้ายมาก่อน จึงเชื่อว่าที่ดินที่ชี้ใช่แปลงเดียวกับที่ในโฉนด จึงทำแผนที่สังเขปประเมินราคาตามสภาพที่ดินที่นางรัมภา ธรรมวิรัตน์ชี้เสนอผู้จัดการใหญ่” ข้อความที่จำเลยเบิกความนั้นเป็นเท็จ ความจริงนางรัมภาธรรมวิรัตน์ มิได้มอบโฉนดที่ดินให้จำเลย และไม่ได้ไปนำชี้ที่ดินร่วมกับจำเลย เอกสารท้ายฟ้องแผนที่สังเขปนั้น จำเลยทำขึ้นโดยลำพัง ความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี เป็นเหตุให้โจทก์แพ้คดีดังกล่าว ความจริงที่ดินมิได้ตั้งอยู่ ณ ที่ตั้งตามที่จำเลยทำขึ้นเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ทั้งคดีไม่มีมูลที่จะรับไว้พิจารณา พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ส่วนข้อที่ว่าคดีมีมูลหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า จำเลยได้นำข้อความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จ เบิกความที่ศาลแพ่งในคดีหมายเลขแดงที่ 4245/2517 ระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัดพงศ์ทอง โจทก์ นางรัมภา ธรรมวิรัตน์ ที่ 1 ธนาคารกรุงไทยจำดั ที่ 2 จำเลย ความเท็จที่จำเลยเบิกนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี เห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่าในคดีดังกล่าวมีข้อพิพาทกับเรื่องอะไร ประเด็นสำคัญแห่งคดีมีว่าอย่างไร ข้อที่จำเลยเบิกความอันเป็นเท็จในคดีนี้ เป็นข้อสำคัญในคดีก่อนอย่างไร ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายถึงการกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีที่ศาลล่างวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share