คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทนายจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาแทนจำเลยภายในอายุความฎีกา ปรากฏต่อมาว่า ตัวจำเลยได้ตายไปแล้วตั้งแต่ก่อนได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ทนายจำเลยฟัง ดังนี้ กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 828 ทนายจำเลยมีหน้าที่ต้องจัดการดำเนินคดีเพื่อปกปักษ์รักษาประโยชน์ของจำเลยตามความในบทกฎหมายดังกล่าว ฉะนั้น การที่ทนายจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาภายในกำหนด 1 เดือนนับแต่วันฟังคำพิพากษา จึงชอบด้วยกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์ทั้งสามมีส่วนเป็นเจ้าของที่พิพาท ๓ ส่วน ใน ๔ ส่วน และแบ่งให้โจทก์คนละส่วน กับห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ที่พิพาทจำเลยครอบครองมากกว่า ๒๐ ปีแล้ว และตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ที่พิพาทจำเลยโดนสร้างครอบครองมากว่า ๒๐ ปี จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครอง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ที่พิพาทเดิมเป็นของนายเคลือบ นางสิน โจทก์ที่ ๑ และที่ ๒ มีส่วนครอบครองร่วมกันมากับนายเปาะสามี จำเลยมิได้ขาดสาย ส่วนโจทก์ที่ ๓ มิได้ครอบครองเลย พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยแบ่งที่พิพาทออกเป็น ๓ ส่วน ให้แก่โจทก์ที่ ๑ ที่ ๒ คนละ ๑ ส่วน ถ้าการแบ่งไม่อาจตกลงกันได้ให้ประมูลกันระหว่างโจทก์จำเลย หรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน
ทนายจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาแทนจำเลย โจทก์คัดค้านว่าจำเลยตายไปแล้วตั้งแต่ก่อนได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ทนายจำเลยฟัง ทนายจำเลยยื่นฎีกาภายหลังจำเลยตายแล้วจึงไม่ยอม ในปัญหานี้ ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่ลงมติว่า กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๒๘ โดยเห็นว่านายไมตรีซึ่งเป็นทนายนางสั้นจำเลยผู้ตาย มีหน้าที่ต้องจัดการดำเนินคดีเพื่อจะปกปักษ์รักษาประโยชน์ของนางสั้นจำเลยตามความในบทกฎหมายดังกล่าวนั้น ฉะนั้น การที่นายไมตรีฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วยื่นฎีกาภายในกำหนด ๑ เดือนนับแต่วันฟังคำพิพากษา จึงชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไปแล้วพิพากษายืน

Share