แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยที่ยื่นต่อศาลมีความว่า “คดีนี้ข้อเท็จจริงจำเลยเป็นลูกจ้างตัดไม้ ได้อาศัยรถยนต์คันเกิดเหตุไป ในระหว่างจับกุมวัตถุระเบิดมีผู้ต้องหา 3 คนผู้ต้องหาอีก 2 คนบอกให้จำเลยรับสารภาพแล้วจะช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ด้วยความไม่รู้เท่าถึงการจำเลยจึงได้รับสารภาพ ความจริงแล้วระเบิดทั้งสองลูกไม่ใช่ของจำเลย แต่เพื่อไม่ให้ยุ่งยากแก่คดีจำเลยขอรับสารภาพตลอดข้อหาไม่ขอต่อสู้คดี” ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคำให้การที่รับสารภาพว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อโจทก์ไม่สืบพยานจึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารจำนวน 2 ลูก อันเป็นวัตถุระเบิดที่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 55, 78 ฯลฯ
จำเลยยื่นคำให้การรับสารภาพ โจทก์จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 2 ปี ปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีของกลางริบ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามคำให้การของจำเลยที่ยื่นต่อศาลจำเลยไม่ได้ให้การรับสารภาพตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อโจทก์แถลงไม่สืบพยานจะพิพากษาลงโทษจำเลยหาได้ไม่พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ลูกระเบิดของกลางให้ริบ
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องโดยไม่รอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำให้การของจำเลยที่ยื่นต่อศาลมีความว่า”คดีนี้ข้อเท็จจริง จำเลยเป็นลูกจ้างตัดไม้ ได้อาศัยรถยนต์คันเกิดเหตุไป ในระหว่างถูกจับกุมวัตถุระเบิด มีผู้ต้องหา 3 คน ผู้ต้องหาอีก 2 คนบอกให้ข้าพเจ้ารับสารภาพแล้วจะช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการข้าพเจ้าจึงได้รับสารภาพไป ความจริงแล้วระเบิดทั้งสองลูกไม่ใช่ของจำเลยแต่เพื่อไม่ให้ยุ่งยากแก่คดี ข้าพเจ้าขอรับสารภาพตลอดข้อหา ไม่ขอต่อสู้คดี ฯลฯ ” (ความต่อไปเป็นข้อความที่จำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษจำคุก) เมื่อศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยยืนยันตามคำให้การที่ยื่นต่อศาล และโจทก์แถลงไม่สืบพยาน ศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การของจำเลยแปลความได้ว่า จำเลยปฏิเสธว่าจำเลยมิได้มีลูกระเบิดของกลางไว้ในความครอบครองอันจะเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เหตุที่จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนก็เพราะไม่รู้เท่าถึงการ คนอื่นบอกให้รับสารภาพแล้วจะช่วยเหลือเรื่องเงินทองจึงยอมรับสารภาพ มาในชั้นศาลก็ว่า เพื่อไม่ให้ยุ่งยากแก่คดี และเพื่อให้ศาลลงโทษในสถานเบาหรือรอการลงโทษจำเลยไว้ จึงยอมรับสารภาพไม่ขอต่อสู้คดี ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นคำให้การที่รับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริงตามที่โจทก์ฟ้อง เมื่อโจทก์ไม่สืบพยาน จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
พิพากษายืน