คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1318/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมกันนั้น จะเรียกว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาไม่ได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลงดการพิจารณาไว้รอฟังผลของอีกคดีหนึ่ง เมื่อคดีนั้นได้ผลอย่างใดจะมาแถลงให้ศาลทราบ ครั้นเมื่อคดีนั้นพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โจทก์ก็หาได้กระทำประการใดไม่ จนเวลาล่วงเลยไปร่วมปี และซ้ำเมื่อจำเลยยื่นคำแถลงให้ศาลทราบ ศาลนัดโจทก์จำเลยมาพร้อมกันโจทก์ได้รับหมายแล้ว ก็ยังหามาศาลไม่การละเลยของโจทก์ เช่นนี้ เรียกได้ว่า โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีได้แล้วและถือว่าเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง 174(2) ด้วยซึ่งศาลมีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสียได้แล้ว
อำนาจสั่งจำหน่ายคดีนั้นกฎหมายให้ศาลไว้เพื่อใช้ตามควรแก่กรณี ไม่ใช่บังคับว่าจะต้องจำหน่ายเสมอไป ศาลย่อมพิจารณาตามสมควรแก่พฤติการณ์(อ้างคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 57/2493) ฉะนั้นอำนาจที่จะสั่งนั้นอย่างหนึ่งสมควรสั่งหรือไม่นั้นอีกอย่างหนึ่ง

Share