แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ใดตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามในที่ดินซึ่งตนครอบครองมาช้านาน แม้จะมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานก็ดี ก็ไม่มีความผิดคำว่า ” ป่า ” ตาม พ.ร.บ.รักษาป่าหมายถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ที่ดินใดแม้จะยังมิได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออกโฉนดให้แก่ผู้ใดก็ดี เมื่อที่ดินนั้นเป็นที่ไร่สวนมีผู้ครอบครองยึดถือตลอดก็หามาเช่นนี้มาเป็นที่ป่าตามความใน พ.ร.บ.นั้นไม่
ย่อยาว
จำเลยทั้ง ๗ คนต่างครอบครองที่ดินทำไร่ปลูกต้นผลไม้ต่าง ๆ มาเป็นเวลากว่า ๑๐ ปีแล้วในไร่ของจำเลยมีต้นยางขึ้นอยู่ จำเลยได้ตัดฟันต้นยางในไร่ของจำเลยลง โจทก์จึงฟ้องหาว่าตัดไม้ประเภทหวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาต
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่ไร่สวนของจำเลยกลายสภาพจากป่ามาเป็นที่บ้านสวนแล้ว หาใช่ที่ป่าตามความหมายใน พ.ร.บ.รักษาป่าไม่ไม้นั้นจึงไม่ใช่ของป่า จำเลยตัดได้ไม่มีผิด คำว่า ” ป่า ” ตาม พ.ร.บ.รักษาป่า ม.๓ ข้อ ๒ นั้นหมายความถึงที่ดินที่มีสภาพเป็นป่า ส่วนที่รายนี้เป็นที่ไร่สวนผลไม้ที่จำเลยถือกรรมสิทธิครอบครองมาตามสภาพไม่ใช่ป่า แม้ถึงว่าจำเลยไม่ได้รับโฉนดมาก็ดี และเมื่อถือว่าจำเลยตัดฟันไม้ประเภทหวงห้ามในไร่ของจำเลย ซึ่งครอบครองมาช้านานจำเลยไม่มีผิดแล้วที่รายนี้จำเลยจะมีกรรมสิทธิหรือไม่ก็ไม่ต้องวินิจฉัยถึง ศาลล่างทั้ง ๒ ให้ยกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว