คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทได้ถูกแก้ไขตัวเลขและตัวหนังสือที่เขียนไว้ในช่องระบุจำนวนเงินให้มีจำนวนเงินสูงขึ้นหลังจากที่จำเลยได้ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คแล้ว โดยจำเลยมิได้ยินยอมด้วยแต่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ไม่ประจักษ์ จำเลยในฐานะผู้สลักหลังย่อมมีความรับผิดเพียงจำนวนเงินเดิมในขณะที่จำเลยสลักหลังเช็คเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด จำนวนสองฉบับ จำนวนเงิน ๔๔,๕๐๐ บาท และ ๔๕,๒๐๐ บาท โดยจำเลยที่ ๑ เป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยที่ ๓ และจำเลยที่ ๔ เป็นผู้สลักหลัง โดยประทับตราของจำเลยที่ ๒ ซึ่งโจทก์ได้รับชำระหนี้จากจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ เมื่อเช็คถึงกำหนดจ่ายเงิน โจทก์ได้นำเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน แต่เก็บเงินไม่ได้เพราะบัญชีปิดแล้ว ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ ได้นำเช็คพิพาท ๒ ฉบับมาให้จำเลยที่ ๔ สลักหลัง ฉบับแรกระบุจำนวนเงิน ๔,๕๐๐ บาท และฉบับที่ ๒ ระบุจำนวนเงิน ๕,๒๐๐ บาท เป็นเงินจำนวนน้อย จำเลยที่ ๔ จึงสลักหลังให้โดยมิได้ประทับตราของจำเลยที่ ๒ โจทก์และจำเลยที่ ๑ ได้สมคบกันแก้ไขเพิ่มตัวเลขและตัวหนังสือลงในเช็คพิพาทให้จำนวนเงินสูงขึ้นกว่าความเป็นจริง จำเลยที่ ๓ มิได้ลงลายมือชื่อสลักหลังและประทับตราของจำเลยที่ ๒ โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระหนี้แก่โจทก์ ๙๖,๒๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้จำเลยที่ ๔ รับผิดร่วมกับจำเลยที่ ๑ ไม่เกินจำนวนเงิน ๙,๗๐๐ บาท ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะจำเลยที่ ๒ ที่ ๓
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๓ ลงชื่อสลักหลังและประทับตราของจำเลยที่ ๒ ลงหลังเช็คทั้งสองฉบับ จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ จึงไม่ต้องรับผิด เช็คพิพาทสองฉบับพิเคราะห์ประกอบคำเบิกความของโจทก์และจำเลยที่ ๔ แล้ว เห็นว่าเช็คพิพาทฉบับแรกตัวเลข “๔” ตัวแรกที่เขียนไว้ในช่องระบุจำนวนเงินมีลักษณะเส้นหมึกเล็กกว่าตัวเลข “๔,๕๐๐” และลักษณะเส้นหมึกตัวเลข “๔” ตัวแรกก็คล้ายกับเส้นหมึกของตัวเลขในช่องลงวันที่สั่งจ่ายกล่าวคือเส้นหมึกเล็กกว่า ส่วนเช็คพิพาทฉบับที่สองนั้น ตัวเลข “๔” ตัวแรกที่เขียนไว้ในช่องระบุจำนวนเงินสั่งจ่ายจะเห็นว่าสีของหมึกจางกว่าตัวเลขอื่น ๆ และตัวหนังสือคำว่า “สี่หมื่น” ในช่องระบุจำนวนเงินสั่งจ่ายเป็นตัวหนังสือกลับมีสีเข้มกว่าตัวหนังสืออื่น โดยเหตุนี้ข้อเท็จจริงจึงน่าเชื่อว่าเช็คพิพาทสองฉบับได้มีการกรอกตัวหนังสือและตัวเลขของจำนวนเงิน ซึ่งมิได้กระทำในคราวเดียวกัน แต่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ไม่มีประจักษ์ ฉะนั้น จำเลยที่ ๔ ในฐานะผู้สลักหลังย่อมมีความรับผิดเพียงจำนวนเงินเดิมในขณะที่จำเลยที่ ๔ สลักหลังเช็คพิพาทเท่านั้น
พิพากษายืน

Share