คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301-1302/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอผัดการสาบานตนของคู่ความฝ่ายที่ยื่นประกอบคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้น ต้องเสียค่าธรรมเนียม
เมื่อปรากฏในชั้นศาลอุทธรณ์ว่า คำร้องนี้ไม่ได้เสียค่าธรรมเนียม โดยคู่ความฝ่ายที่ยื่นมิได้ขัดขืนไม่ยอมเสียแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นปฏิบัติในเรื่องค่าธรรมเนียมให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะสั่งยกคำร้อง โดยไม่ยอมรับวินิจฉัยให้เสียเลย

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท ทนายจำเลยนำอุทธรณ์มายื่นในวันสุดท้ายของระยะเวลาอุทธรณ์ พร้อมกับยื่นคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถา แต่จำเลยมิได้มาศาล ทนายจำเลยจึงทำคำร้องขอผัดการสาบานตนประกอบคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาไปภายใน 3 วัน

ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยไม่ได้สาบานตัวพร้อมกับยื่นคำร้องขอสู้คดีอย่างคนอนาถา โดยทนายจำเลยเข้าใจผิด ไม่เป็นเหตุให้ผัดการสาบานตัวได้ ไม่อนุญาตและให้ยกคำร้องขอต่อสู้คดีอย่างอนาถา

จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์สั่งว่า การที่ทนายจำเลยขอผัดให้จำเลยสาบานตัว 3 วัน นั้น เท่ากับเป็นการขยายระยะเวลาอุทธรณ์ซึ่งต้องทำเป็นคำร้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แต่ทนายมิได้ปิดค่าธรรมเนียมเป็นคำร้องมีผลเท่ากับเป็นคำแถลง จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีร้องขอว่าความอย่างคนอนาถาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เฉพาะที่บัญญัติไว้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 ว.3 ส่วนคำร้องขอผัดการสาบานตนของจำเลยประกอบคำร้องขอว่าความอย่างคนอนาถานั้นเป็นคำร้องที่ขอให้ศาลปฏิบัติการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ตาม มาตรา 149 ว.3 และไม่เกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนอนาถา คำร้องที่เป็นพิเศษเช่นนี้ จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมแต่ศาลชั้นต้นสั่งรับและวินิจฉัยคำร้องนั้น โดยมิได้ทักท้วงเรื่องค่าธรรมเนียม เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นเป็นการบกพร่อง ก็มีอำนาจสั่งให้ศาลชั้นต้นจัดการแก้ไขก่อนที่จะสั่งคำร้องตาม มาตรา 18 ว.2 ค่าธรรมเนียมคำร้องขาดไปโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยขัดขืนไม่ยอมเสียศาลฎีกาจึงพิพากษายกคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นจัดการเรื่องค่าธรรมเนียมคำร้องขอผัดการสาบานของจำเลยให้ถูกต้อง แล้วส่งสำนวนคืนศาลอุทธรณ์วินิจฉัยสั่งคำร้องนั้นใหม่

Share