แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ที่เจ้ามฤดกตัดฐาติไว้ในพินัยกรรมแล้วไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะมาร้องขอให้แสดงบัญชีมฤดกผู้จัดการมฤดกที่เข้ารับหน้าที่ก่อนวันใช้ประมวลแพ่ง ฯ บรรพ 6 ไม่ตกอยู่ในบังคับ ม. 1728 1729 เป็นบทบังคับให้ทำบัญชีทรัพย์มฤดกไม่ใช่บทบังคับให้ทำบัญชีรับและจ่ายทรัพย์มฤดก
ย่อยาว
เรื่องนี้เดิมศาลแพ่ง มีคำสั่งตั้งหลวงพิทักษ์ ฯ กับพวกเป็นผู้จัดการมฤดกตาม พินัยกรรมนางเง็กแล้วแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๗๗ บัดนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสังให้ผู้จัดการมฤดกยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการจัดการมฤดกต่อศาล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้จัดการมฤดกทำบัญชีทรัพย์มฤดกตลอดจนการจำหน่ายไปอย่างไรมายื่นต่าศาลภายใน ๑๕ วัน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้ผู้จัดการมฤดกรายนี้แสดงบัญชีและเห็นว่าผู้ร้องในคดีนี้ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะนางเง็กได้ตัดญาติไว้ในพินัยกรรม์แล้วจึงให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นเสีย
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๗๒๘ ๑๗๒๙ ที่ผู้ร้องอ้างนั้นกล่าวถึงเรื่องผู้จัดการมฤดกต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายซึ่งเป็นบัญชีคนละประเภทกับที่กล่าวไว้ในมาตรา ทั้ง ๒ นั้น ถึงหากผู้ร้องจะเถียงว่าความมุ่งหมายของตนประสงค์จะให้ผู้จัดการมฤดกทำบัญชีตามความใน ๒ มาตรานั้นเห็นว่าฟังไม่ขึ้น เพราะถ้อยคำที่ผู้ร้องกล่าวในคำร้องถึงเรื่องประเภทบัญชีขัดกับถ้อยคำที่บัญญัติไว้ในตัวบทกฎหมาย อนึ่งศาลจะนำ ม. ๑๗๒๘ ๑๗๒๙ มาใช้แก่คดีนี้ก็ไม่ได้ เพราะผู้จักการมฤดก เริ่มเข้ารับหน้าที่ก่อนใช้ประมวลแพ่งฯ บรรพ ๖ และเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มฤดกเพราะในพินับกรรม์ปรากฏว่านางเง็กตัดญาติผู้ร้องแล้ว ทั้งผู้ร้องเคยฟ้องอ้างว่าพินัยกรรม์ไม่สมบูรณ์ แต่ศาลฎีกาได้ พิพากษาแล้วว่าพินัยกรรม์นั้นสมบูรณ์ ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในอันที่จะมาร้องขอให้แสดงบัญชีได้จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์