คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1293/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายที่ดิน (ไม่ใช่จะซื้อขาย) หากทำกันเองมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้นเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. ม. 115

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้จ่ายเงินทดรองแทนจำเลยไปเป็นเงิน ๕๕๐๐ บาท ต่อมาจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาขายที่นาเนื้อที่ ๔ ไร่ ๖๐ วา ที่จำเลยได้จากคดีที่โจทก์ทดรองจ่ายไปเป็นเงิน ๕๕๐๐ บาท โดยสัญญาจะโอนกรรมสิทธิที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายหลัง จำเลยยอมให้โจทก์เข้าครอบครองตั้งแต่วันทำสัญญา ต่อมาจำเลยได้มรดกเข้าไปไถนา ฯลฯ ทำให้โจทก์เสียหาย ๔๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์ตามสัญญา ถ้าไม่สามารถโอนขายได้ ขอให้แสดงว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้โดยได้สิทธิทางครอบครอง ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่าโจกท์ไม่ได้จ่ายเงินทดรองแทนจำเลย และไม่เคยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้โจทก์ แต่จำเลยพิมพ์ลายนิ้วมือในกระดาษที่มีตัวพิมพ์บ้างไม่มีตัวพิมพ์บ้างหลายคราว เพราะโจทก์ได้ช่วยเหลือในการเป็นความ เพราะโจทก์ได้ช่วยเหลือในการเป็นความ จำเลยเป็นคนชราและไม่รู้หนังสือ โจทก์หาได้ครอบครองที่พิพาทไม่
ชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่าค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องจำเลยไม่ค้าน ถ้าโจทก์ชนะคดีจำเลยยอมให้เต็ม และจำเลยรับว่าได้พิมพ์ลายนิ้วมือในหนังสือสัญญาขายรายนี้จริง โดยเจตนาจะมอบให้โจทก์เป็นผู้แทนในการช่วยดำเนินคดีกับนางไพ ไม่ใช่ตกลงขายที่พิพาทให้โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย ๔๐๐ บาท ข้อที่ขอให้จำเลยโอนขายนั้นไม่บังคับให้
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าสัญญาซื้อขายที่ดินที่โจทก์อ้างทำกันเองมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.ม.๑๑๕ และคดีโจทก์ฟังไม่ได้ว่าโจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทจนได้สิทธิในการครอบครอง
พิพากษายืน

Share