คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อคำเบิกความของจำเลยในการพิจารณาคดีต่อศาลน่าจะเป็นความจริงทั้งจำเลยเบิกความดังกล่าว โจทก์ก็ได้ให้จำเลยดูคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยแล้ว จำเลยได้ยืนยันว่า คำให้การดังกล่าวไม่ตรงกับความจริง ความจริงเป็นดังที่จำเลยเบิกความต่อศาลแม้โจทก์จะมีพนักงานสอบสวนในคดีอาญาดังกล่าวมาเบิกความรับรองว่าจำเลยได้ให้การในชั้นสอบสวนด้วยความสมัครใจ เมื่อจำเลยได้เบิกความต่อศาลโดยมีเหตุผลประกอบน่าเชื่อว่าเป็นความจริง จึงไม่อาจที่จะรับฟังว่าจำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรคสอง ลงโทษจำคุก 1 ปี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ได้ฟ้องนายณรงค์ อ่อนชนะ ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนต่อศาลชั้นต้น จำเลยได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนตามเอกสารหมาย จ.1 ว่า จำเลยเห็นนายณรงค์ใช้มีดฟันนายวินัย พันหลง ผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าวที่ใต้ถุนบ้านนายโฮกด้วยมีดเหรียญสำหรับดายหญ้า แล้วหลบหนีไป ซึ่งโจทก์ถือว่าเป็นความจริง แต่ในชั้นศาลจำเลยเป็นพยานโจทก์เบิกความว่าจำเลยเดินลงจากบ้านนายโฮกแล้วเห็นนายวินัยผู้เสียหายเดินลงจากบ้านนายโฮก ขณะจำเลยเดินไปปัสสาวะก็ได้ยินเสียงใช้มีดฟันดังตุบตั้บ เห็นผู้เสียหายถูกฟัน คนที่ใช้มีดฟันเห็นเป็นเงาตะคุ่ม ๆไม่ทราบว่าเป็นใคร ตามคำเบิกความเอกสารหมาย ป.จ.1 ซึ่งโจทก์ถือว่าเป็นความเท็จ ปัญหาจึงมีว่าคำเบิกความของจำเลยดังกล่าวเป็นคำเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีอาญาหรือไม่ ทางพิจารณาได้ความจากคำร้อยตำรวจเอกวิชิต ศรีไชยวาน พนักงานสอบสวนประกอบคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนเอกสารหมาย จ.1 ว่า บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านของนายโฮกยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณบ้านเป็นสวนไม่มีไฟฟ้าใช้ ก่อนเกิดเหตุ จำเลย นายณรงค์และนายวินัยผู้เสียหายกับคนอื่น ๆ หลายคนได้มาดื่มสุราและเล่นการพนันบนบ้านจนมืดค่ำจึงได้จุดตะเกียงกระป๋องน้ำมันก๊าดไว้บนบ้าน 2 ดวงที่จำเลยเบิกความว่า ขณะเดินลงจากบ้านนายโฮกจะไปปัสสาวะได้ยินเสียงใช้มีดฟัน และเห็นผู้เสียหายถูกฟันโดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนร้ายเพราะเห็นเป็นเงาตะคุ่ม ๆ โดยมิได้เบิกความว่าเห็นนายณรงค์เป็นคนร้ายใช้มีดฟันผู้เสียหาย จึงน่าจะเป็นความจริง เพราะเหตุเกิดขึ้นในที่มืดไม่มีแสงสว่าง ทั้งจำเลยเบิกความดังกล่าวพนักงานอัยการจังหวัดนครสวรรค์ โจทก์ ก็ได้ให้จำเลยดูคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยแล้ว จำเลยก็ได้เบิกความยืนยันว่า คำให้การดังกล่าวไม่ตรงกับความจริง ความจริงเป็นดังที่จำเลยเบิกความต่อศาลแม้โจทก์จะมีร้อยตำรวจเอกวิชิต ศรีไชยวาน พนักงานสอบสวนในคดีอาญาดังกล่าวมาเบิกความรับรองว่า จำเลยได้ให้การไว้ในชั้นสอบสวนด้วยความสมัครใจ เมื่อจำเลยได้เบิกความต่อศาลโดยมีเหตุผลประกอบน่าเชื่อว่าเป็นความจริงจึงไม่อาจที่จะรับฟังว่าจำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำเลย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share