แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า นาวาอากาศโทไสวสมคบกับบุคคลอื่นปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ คดีจึงมีประเด็นว่า ลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ปลอมหรือไม่ โจทก์นำสืบว่า ลายพิมพ์นิ้วมือไม่ได้รับรองในขณะที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือ จึงเป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
จำเลยต่อสู้ว่า ใบมอบอำนาจไม่ปลอม ลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ แล้วกลับให้การว่า ถ้าลายพิมพ์นิ้วมือและข้อความในใบมอบอำนาจ ไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ โจทก์ก็สมคบกันปลอมขึ้น จำเลยมีสิทธิที่จะให้การเช่นนั้น และชอบที่จะนำสืบตามคำให้การได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ ๔๔๔๗ พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน นาวาอากาศโทไสว แสงเดือนได้สมคบกับบุคคลอื่นปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ลงในหนังสือมอบอำนาจแบบของทางราชการกรมที่ดิน แล้วกรอกข้อความเท็จลงในใบมอบอำนาจ มีข้อความว่า โจทก์มอบอำนาจให้นาวาอากาศโทไสวไปทำการขายฝากที่ดินดังกล่าว ให้แก่จำเลยเป็นเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท แล้วนาวาอากาศโทไสวได้ใช้หนังสือปลอมนั้นไปทำการจดทะเบียนขายฝากที่ดินให้ไว้กับจำเลย ขอให้พิพากษาสั่งจำเลยให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนให้โจทก์
จำเลยให้การว่า ที่ดินตามฟ้องก่อนขายฝากไว้กับจำเลย โจทก์จำนองไว้กับนางสาวศิรินวล ชัยสุวรรณ โจทก์มอบอำนาจให้นาวาอากาศโทไสวมาทำการไถ่ถอนและมอบอำนาจให้ขายฝากไว้กับจำเลยในวันเดียวกัน ลายพิมพ์นิ้วมือและข้อความในหนังสือมอบอำนาจเป็นลายพิมพ์นิ้วมือและข้อความของโจทก์ หากลายพิมพ์นิ้วมือโจทก์ปลอม และข้อความในหนังสือมอบอำนาจเป็นเท็จ โจทก์กับนาวาอากาศโทไสวและพวกก็สมคบกันทำขึ้นเพื่อฉ้อโกง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังว่า ใบมอบอำนาจโจทก์ลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้จริง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้ในใบมอบอำนาจจริง ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า พยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือมิได้ลงชื่อรับรองในขณะที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือ จะถือว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ไม่ได้นั้น คดีนี้ โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่านาวาอากาศโทไสวสมคบกับุคคลอื่นปลอมลายพิมพ์นิ้วมือโจทก์ คดีจึงมีประเด็นว่า ลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ปลอมหรือไม่ ฉะนั้น ที่โจทก์นำสืบว่าลายพิมพ์นิ้วมือไม่ได้รับรองในขณะที่ลงลายพิมพ์นิ้วมือ จึงเป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่าตามคำให้การของจำเลยเสนอข้อต่อสู้กำกวมเป็นหลายนัย ไม่เป็นคำให้การตามกฎหมาย โดยตอนต้นในข้อ ๒ จำเลยว่า ใบมอบอำนาจไม่ปลอม ลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ แล้วกลับให้การในข้อ ๔ ว่า ถ้าลายพิมพ์นิ้วมือและข้อความในใบมอบอำนาจไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ โจทก์ก็สมคบกันปลอมขึ้นเพื่อฉ้อโกงจำเลย คำให้การไม่ชัดเจน ไม่มีประเด็นที่จะสืบตามคำให้การนั้น ข้อนี้ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมีสิทธิที่จะให้การเช่นนั้น และชอบที่จะนำสืบตามคำให้การได้
พิพากษายืน