แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเครื่องพิมพ์ดีดเป็นเงิน 1,500 บาทแก่ผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายได้ไถ่เครื่องพิมพ์ดีดคืนมาแล้วจากโรงรับจำนำเป็นเงิน 350 บาทเงินค่าไถ่ที่ผู้เสียหายเสียไปนี้มิใช่ทรัพย์สินหรือราคาทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดรับของโจรของจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 43 จึงไม่พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าไถ่แก่ผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเครื่องพิมพ์ดีดเป็นเงิน 1,500 บาทแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี ให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ 350 บาทที่ผู้เสียหายเสียไปให้แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยอ้างว่านายอ๊อดขอร้องให้จำเลยช่วยเอาเครื่องพิมพ์ดีดไปจำนำและนายอ๊อดก็ได้ไปโรงรับจำนำด้วยนั้น คงมีแต่คำเบิกความของจำเลยผู้เดียว จึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ และที่ว่าเครื่องพิมพ์ดีดเป็นของนายอ๊อดก็ไม่ปรากฏว่านายอ๊อดประกอบอาชีพอะไร มีฐานะเป็นอย่างไร ข้ออ้างของจำเลยจึงเชื่อไม่ได้ตามข้อเท็จจริงได้ความว่าเครื่องพิมพ์ดีดของผู้เสียหายได้หายไปเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2512 จำเลยเอาเครื่องพิมพ์ดีดนี้ไปจำนำเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2512 ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นจากวันที่เครื่องพิมพ์ดีดหาย พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยรับเครื่องพิมพ์ดีดไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดฐานรับของโจร
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเครื่องพิมพ์ดีดเป็นเงิน 1,500 บาทแก่ผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้เครื่องพิมพ์ดีดคืนมาแล้วจากโรงรับจำนำ โดยเสียค่าไถ่ 350 บาท ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ 350 บาทแก่ผู้เสียหายที่ต้องเสียไปด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะเงินที่ผู้เสียหายเสียไปนี้เป็นเงินค่าไถ่ มิใช่ทรัพย์สินหรือราคาทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดรับของโจรของจำเลยตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
พิพากษาแก้ เป็นว่า ไม่ต้องให้จำเลยใช้เงิน 350 บาทแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์