คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินสดจำนวนหนึ่งแล้ว ส.นำเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. โจทก์สั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นให้ ส.รับไป โจทก์นำเช็คเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนี้ เมื่อโจทก์มาฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเช็ค โจทก์ได้บรรยายฟ้องมีความเช่นเดียวกับคำฟ้องคดีอาญา มิได้มีข้อความเพิ่มเติมแสดงว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ต้องใช้เงินให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. จึงโอนเช็คพิพาทให้โจทก์มาจัดการเอาเอง คำพิพากษาในส่วนอาญาก็ได้วินิจฉัยว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ค. เป็นผู้ทรงเช็คพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยและฟังตามบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งมาแล้วว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจำต้องถือตามดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46 บังคับไว้ คดีไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาตามมาตรา 47 ประการใดอีกเมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมว่าต่อมาโจทก์ต้องใช้เงินตามเช็คให้แก่ห้างดังกล่าวและห้างนั้นได้โอนเช็คให้โจทก์มาจัดการเอง เป็นการที่โจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทขึ้นด้วยนั้น คดีไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบดังกล่าวนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ออกเช็คธนาคารแห่งอเมริกา เลขที่ ดี.๑๖๔๐๗/๑ ลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๐๔ สั่งจ่ายเงินสดจำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท แล้วนายศาสตราได้นำเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ที่ห้างหุ้นส่วนโค้วยู่ฮะ จำเลยรับว่าเป็นเช็คของจำเลย โจทก์สั่งจ่ายเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ให้นายศาสตรารับไปวันนั้น นายศาสตราได้มอบเช็คให้โจทก์ไปรับเงินเมื่อถึงกำหนดโจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ ต่อมาโจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนดังกล่าว แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โดยแจ้งว่าผู้สั่งจ่ายสั่งระงับการจ่าย โจทก์จึงฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาตามคดีหมายเลขดำที่ ๑๓๘๙/๒๕๐๔ ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องโดยงดสืบพยานโจทก์ แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามคดีหมายเลขแดงที่ ๕๒๓/๒๕๐๕ ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ๓๐,๐๐๐ บาท กับดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน ๓๒,๒๓๑.๒๕ บาท
จำเลยให้การว่า ไม่ได้จ่ายเช็คดังกล่าวให้โจทก์ หรือห้างหุ้นส่วนโค้วยู่ฮะแต่เป็นการจ่ายล่วงหน้าแก่นายศาสตราซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัทชาลีจำกัด ชำระค่าน้ำมัน นายศาสตราไม่ส่งน้ำมันให้จำเลย จำเลยจึงไปอายัดเช็คไว้ ฯลฯ ศาลแพ่งเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ให้ยกฟ้อง โดยไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องก็มีความเช่นเดียวกับคำฟ้องของโจทก์ในคดีอาญา มิได้มีข้อความเพิ่มเติมแสดงว่าเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว โจทก์ต้องใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาทให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดโค้วยู่ฮะ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโค้วยู่ฮะจึงโอนเช็คพิพาทให้โจทก์มาจัดการเอาเองดังที่โจทก์อ้าง คำพิพากษาในส่วนอาญาก็ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโค้วยู่ฮะเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ย่อมเป็นการวินิจฉัยและฟังตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยความรับผิดชอบบุคคลในทางแพ่งมาแล้วว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ศาลจำต้องถือตามในการพิพากษาคดีนี้ ดังที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๔๖ บังคับไว้ คดีไม่มีเหตุที่จะต้องพิจารณาตามมาตรา ๔๗ ประการใดอีกเมื่อโจทก์มิได้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมว่าต่อมาโจทก์ต้องใช้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาทให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดโค้วยู่ฮะและห้างหุ้นส่วนจำกัดโค้วยู่ฮะได้โอนเช็คให้โจทก์มาจัดการเอาเอง เป็นการที่โจทก์ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทขึ้นด้วยนั้น คดีก็ไม่มีประเด็นที่โจทก์จะนำสืบดังกล่าวนี้ได้
พิพากษายืน

Share