คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในเรื่องขอให้เปิดทางเดินโดยไม่มีทางออก เมื่อศาลพิพากษาให้เปิดทางเดินแล้วสิทธิในทางเดินนั้นย่อมเป็นภาระจำยอม โจทก์แลครอบครัวและแขกของโจทก์ย่อมมีสิทธิ์ใช้ทางเดินนั้น ไม่ใช่เป็นสิทธิ์จำกัดฉะเพาะตัวโจทก์
พฤตติการณ์ที่ขอให้เปิดทางเดินอันขอให้บังคับให้เปิดเพื่อใช่รถยนตร์ได้ด้วย

ย่อยาว

ได้ความว่าบ้านโจทก์ปลูกบ้านอยู่ในทะเลปลายถนนจอมพลซึ่งยื่นจากฝั่งไปในทะเลถึงแหลมฟาน นอกจากถนนสายนี้แล้วโจทก์ไม่มีทางออก จำเลยได้กั้นปิดถนนสายนี้โจทก์ได้ฟ้องขอให้เปิดทาง ศาลจังหวัดชลบุรีพิพากษาบังคับจำเลยว่า “ให้รื้อลวดหนามซึ่งกั้นหน้าบ้านโจทก์กับรื้อประตูรายพิพาท หรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้โจทก์ใช้ถนนจอมพลขึ้นลงจากบ้านโจทก์ไปสั่งฝั่งศรีราชาได้สะดวกตามเดิม”
ในชั้นนี้เป็นชั้นโจทก์ขอบังคับคดี ฝ่ายจำเลยว่าได้ปฏิบัติตามหมายแล้ว โดยเปิดประตูให้โจทก์เข้าออกแล้ว
ศาลจังหวัดชลบุรีไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่าไม่ควรบังคับให้จำเลยรื้อประตู ให้จำเลยเปิดประตูบานใหญ่ทั้งสองบาน แต่เวลา ๙ ถึง ๑๘ น.และให้เปิดประตูบานเล็ก ๑ บานตั้งแต่ ๑๘ ถึง ๒๔ น. และห้ามมิให้จำเลยขัดขวางมิให้โจทก์และครอบครัวของโจทก์และแขกที่ไปมาหาสู่ออกสู่บ้านโจทก์
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ทั้งสองฝ่าย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้จำเลยมีหน้าที่เปิดประตูเพื่อให้โจทก์ใช้ถนนขึ้นลงจากบ้านโจทก์ รวมทั้งการใช้รถยนตร์ไปสู่ฝั่งได้โดยสะดวกทุกเวลา
จำเลยฎีกาว่า สิทธิ์ใช้ถนนเป็นของโจทก์ผู้เดียว ทั้งโจทก์ไม่มีสิทธิ์ใช้รถยนตร์บนทางนี้
ศาลฎีกาตัดสินว่า เมื่อพิเคราะห์ม.๑๓๔๙ ประกอบกับคำพิพากษาแล้ว โจทก์มีสิทธิ์ในภาระจำยอมจะใช้ถนนรายนี้ซึ่งตาม ม.๑๓๘๗ ภาระจำยอมเป็นสิทธิ์เกี่ยวข้องกับที่ดิน หาใช่สิทธิ์ของเจ้าของที่ดินผุ้เดียวไม่ ฉะนั้นการใช้ถนนสายนี้จึงหมายรวมตลอดทั้งผู้อาศัยอำนาจของโจทก์ เช่นครอบครัวและแขกของโจทก์ด้วย ในเรื่องสิทธิ์ใช้รถยนตร์บนถนนสายนี้คำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ขอให้เปิดทางเดินย่อมหมายถึงขอให้เปิดถนนเพื่อใช้เดินตามธรรมดา ที่โจทก์ใช้รถยนตร์ในคดีนี้เป็นการใช้ถนนตามธรรมดา จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share