คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12704/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เด็กหญิง ช. เป็นผู้เยาว์ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ต. แม้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมก็เป็นผู้จัดการมรดกแทนผู้เยาว์ไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ เด็กหญิง ช. โดย ต. ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของ ส. ผู้ตายย่อมเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดคัดค้านทั้งสองยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ตั้งผู้คัดค้านทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายและยกคำร้องขอของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนางสาวชุติมณฑน์ ผู้คัดค้านที่ 1 และเด็กหญิง ช. โดยนางสาวชุติมณฑน์ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนายสมัค ผู้ตาย ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติในชั้นนี้โดยคู่ความไม่โต้แย้งคัดค้านว่า ผู้ร้องและนายสมัค ผู้ตาย เป็นบุตรของนายสวน และนางเสี่ยน มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 7 คน คือ นางสาวกระสิน นายประสาร ผู้ร้อง จ่าสิบเอกประสาท ผู้ตาย นายสามารถ และนายปรีชา ตามบัญชีเครือญาติ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2552 ผู้ตายถึงแก่ความตาย ตามสำเนามรณบัตร ผู้ตายมีทรัพย์มรดก คือ ที่ดินตามสำเนาโฉนดที่ดิน พร้อมตึกแถว ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมและตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นมารดาของผู้คัดค้านที่ 2 ขณะที่ผู้คัดค้านที่ 2 เกิดได้ระบุชื่อเด็กหญิง ช. และระบุว่านายโสภณ เป็นบิดาตามสำเนาสูติบัตร ต่อมาผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปลี่ยนชื่อจาก “ช.” เป็น “ก.” ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อสกุลจาก “พินทอง” เป็น “ใจขาน” ผู้คัดค้านทั้งสองไปร่วมงานศพของผู้ตายที่วัดพลับพลาไชย ผู้คัดค้านทั้งสองเคยถ่ายรูปกับผู้ตาย วันที่ 17 มิถุนายน 2552 ผู้คัดค้านทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้คัดค้านที่ 2 เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายตามสำเนาคำร้องขอคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 43/2552 ของศาลจังหวัดเพชรบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว คดีดังกล่าวได้มีการส่งให้แพทย์โรงพยาบาลศิริราชตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาและบุตรตามสำเนาหนังสือแจ้งคำสั่งศาล แพทย์ทำการตรวจแล้วระบุว่า ผู้ตายและผู้คัดค้านที่ 2 มีความสัมพันธ์เป็นบิดาและบุตรในทางสายเลือดตามสำเนารายงานสรุปผลการตรวจวิเคราะห์ ศาลจังหวัดเพชรบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวมีคำสั่งว่า ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นบุตรของผู้ตายตามสำเนาคำสั่งคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 43/2552 หมายเลขแดงที่ 68/2552 ของศาลจังหวัดเพชรบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2552 ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ 1 ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายที่จะเป็นผู้จัดการมรดก
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้คัดค้านที่ 1 อยู่กินเป็นสามีภริยากับนายสมัค ผู้ตาย และผู้คัดค้านที่ 2 เป็นบุตรของผู้ตายหรือไม่ ผู้คัดค้านทั้งสองมีสำเนารายงานสรุปผลการตรวจวิเคราะห์ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลศิริราชได้ทำการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาและบุตรของผู้ตายและผู้คัดค้านที่ 2 แล้วยืนยันว่า มีความเป็นบิดาและบุตรโดยสายโลหิตจริง ประกอบกับศาลจังหวัดเพชรบุรีแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวได้มีคำสั่งว่าผู้คัดค้านที่ 2 เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ตามสำเนาคำสั่งคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 43/2552 หมายเลขแดงที่ 68/2552 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2552 แม้ผู้ร้องจะอุทธรณ์และคัดค้านคดีดังกล่าวในเรื่องที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ผู้ร้องขยายเวลายื่นคำคัดค้านแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 และศาลฎีกาก็พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6889/2555 ดังนี้คำสั่งของศาลดังกล่าวเป็นคำสั่งเกี่ยวด้วยฐานะของบุคคลย่อมผูกพันผู้ร้องซึ่งถือว่าเป็นคู่ความในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 พยานหลักฐานที่ผู้คัดค้านทั้งสองนำสืบมีน้ำหนักรับฟังได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
เด็กหญิง ช. เป็นผู้เยาว์ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก นางชุติมณฑน์ แม้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมก็เป็นผู้จัดการมรดกแทนผู้เยาว์ไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้เด็กหญิง ช. โดยนางชุติมณฑน์ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของนายสมัค ผู้ตาย ย่อมเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งนางสาวชุติมณฑน์ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้จัดการมรดกของนายสมัค ผู้ตาย ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ยกคำขอที่ให้ตั้งเด็กหญิง ช. โดยนางสาวชุติมณฑน์ ผู้แทนโดยชอบธรรมผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ยกคำร้องขอของผู้ร้องค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

Share