คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2491 ซึ่งเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย ตามปฏิทินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 แต่พยานเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นเมื่อวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 เวลากลางคืน 2.00 น. เศษ รุ่งเช้าเป็นวันขึ้น 8 ค่ำดังนี้ เป็นคนละคืนกับที่กล่าวในฟ้อง ต้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ไปรวมเป็นเงิน 6,045 บาท โดยไม่ปรากฏว่าทรัพย์นั้นเป็นอะไรบ้าง ทั้งบัญชีทรัพย์ก็ไม่มี ดังนี้ จำเลยย่อมเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับทรัพย์นั้นไม่ได้ จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 931/2485)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ จำเลยให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยทำผิดเมื่อระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2491 ซึ่งเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมายตามปฏิทินวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2491 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 แต่พยานเบิกความว่า ถูกปล้นวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3 เวลากลางคืน 2.00 น. เศษ รุ่งเช้าเป็นวันขึ้น 8 ค่ำ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนละคืนกับวันที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และตามฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าทรัพย์ของเจ้าทรัพย์ที่ถูกจำเลยกับพวกปล้นไป มีอะไรบ้างราคาเท่าใด จำเลยจะเข้าใจข้อหาเกี่ยวกับสิ่งของที่จำเลยต้องหาไม่ได้เลย จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

พิพากษายืน

Share