คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยตกลงกันในศาล ได้กำหนดเวลาที่จำเลยจะต้องชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทินเมื่อจำเลยมิได้ชำระหนี้ตามกำหนด จึงได้ชื่อว่าผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 โจทก์ขอให้ศาลบังคับคดีได้ทันที ข้อที่จำเลยอ้างว่ามีกิจธุระจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดและเกิดเจ็บป่วยระหว่างทาง จึงไม่สามารถชำระหนี้ให้ทันตามกำหนดนั้น ก็ไม่ปรากฏในคำร้องว่าจำเลยเจ็บป่วยขนาดไหน เพราะการป่วยเป็นไข้และความดันโลหิตสูงในกรณีปกติก็เดินทางกันได้ ที่จำเลยอ้างว่าเดินทางต่อมาไม่ได้ จึงไม่พอรับฟัง ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลย ไม่ต้องรับผิดชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 32,500 บาทที่จำเลยที่ 1 กู้ไปจากโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมต่อหน้าศาลโดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดต่อมาจำเลยที่ 1 ไม่ชำระงวดแรกโจทก์ร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ก็ยื่นคำร้องขอให้ศาลรับเงินงวดแรกศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องจำเลยที่ 1 และออกหมายบังคับคดี

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยตกลงกันนั้นได้กำหนดเวลาที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระหนี้ให้โจทก์ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน คือ จำเลยที่ 1 จะต้องชำระภายในวันที่ 5 ของเดือนกำหนดชำระงวดแรกภายในวันที่ 5 พฤษภาคม 2511 ผิดนัดงวดใดให้ถือว่าผิดนัดทุกงวด ถ้าจำเลยที่ 1 ผิดนัด จำเลยที่ 2 จะรับผิดชดใช้แทนจนครบ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้ชำระหนี้งวดแรกให้โจทก์ตามกำหนด จำเลยที่ 1 จึงได้ชื่อว่าตกเป็นผู้ผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204 วรรค 2 โจทก์ขอให้ศาลบังคับคดีได้ทันที คำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ว่ามีกิจธุระจำเป็นที่จังหวัดพระนครและเกิดเจ็บป่วยระหว่างทาง จึงไม่สามารถชำระหนี้ให้ทันตามกำหนดนั้นก็ไม่ปรากฏในคำร้องว่าจำเลยเจ็บป่วยขนาดไหนเพราะการป่วยเป็นไข้และความดันโลหิตสูงในกรณีปกติก็เดินทางกันได้ ที่จำเลยอ้างว่าเดินทางต่อมาไม่ได้จึงไม่พอรับฟัง ถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205

พิพากษายืน

Share