คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยวิวาททำร้ายร่างกาย จำเลยรับสารภาพศาลลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลาง ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้จำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาทและไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาท แต่จำเลยที 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นการริบทรัพย์ จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย พิพากษายืน คดีเช่นนี้จำเลยที่ 1 จะฎีกาว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทอีกต่อไปไม่ได้ เป็นการเถียงข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดีได้ความตามฟ้องประกอบคำพยานโจทก์และคำให้การรับสารภาพของจำเลย ฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 5 สมัครใจวิวาททำร้ายร่างกายกันจำเลยที่ 4 ถูกยิงสาหัส จำเลยที่ 3 ถูกฟันบาดเจ็บ เจ้าพนักงานจับได้ปืนพกหนึ่งกระบอกกับคราดเหล็กหนึ่งอันเป็นของกลาง จำเลยที่ 1 เคยต้องโทษมาแล้ว 3 ครั้ง ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิด กฎหมายอาญา มาตรา 258 ให้ลงโทษเมื่อลดกึ่งหนึ่งแล้ว คนละ 3 เดือนปรับคนละ 100 บาท ส่วนข้อเพิ่มโทษนั้นเห็นว่าโทษเดิมเป็นโทษปรับและโทษจำที่ได้ยกและรอการลงโทษไว้ จึงเพิ่มโทษไม่ได้ ส่วนโทษในคดีนี้ให้รอการลงโทษ ไว้ภายใน 3 ปี จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอคืนปืนของกลางโดยอ้างว่าเป็นปืนมีใบอนุญาต จำเลยที่ 1 ไม่ได้ใช้ในการวิวาทเป็นแต่มอบให้จำเลยที่ 2 ไว้เฝ้าโรงนา จำเลยที่ 2 นำมาใช้ในการวิวาทโดยจำเลยที่ 1 จะไม่ได้ใช้ปืนของกลางในการวิวาท และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 2 ได้นำปืนของกลางมาใช้ในการวิวาท แต่ จำเลยที่ 1 ได้ร่วมรู้เห็นและลงมือกระทำผิดคดีนี้ด้วย จึงให้ริบปืนและคราดเหล็กของกลางเสีย

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์เฉพาะข้อริบปืน

ศาลอุทธรณ์เชื่อว่า จำเลยที่ 1 ได้ร่วมรู้เห็นในการใช้อาวุธปืนยิงในขณะเกิดเหตุด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของปืนได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย ปืนของกลางจึงเป็นของควรริบจึงพิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมรู้เห็นในการที่จำเลยที่ 2 ใช้ปืนยิง จำเลยที่ 1 จะคัดค้านว่าไม่รู้และมิได้อนุญาตให้จำเลยที่ 2 นำปืนไปใช้ในการวิวาทจึงเป็นการเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้าม ให้ยกฎีกาจำเลยที่ 1 เสีย

Share