คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 3 คนมาพบผู้ตายกับพวกกำลังขนบุหรี่ ได้พากันไปพูดจาซื้อขายบุหรี่ แล้วพวกของจำเลยคนหนึ่งได้ใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย และได้ร่วมกันลักเอาบุหรี่ของผู้ตายไป แต่ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงมีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 3 คนใช้ปืนยิงนายวงศ์ตายโดยเจตนาฆ่า และเพื่อความสะดวกในการที่จำเลยกับพวกจะลักทรัพย์ของนายวงศ์ แล้วได้ปล้นเอาบุหรี่ของนายวงศ์ไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 83

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7)

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 3 คนได้มาพบนายวงศ์ผู้ตายกับพวกกำลังขนบุหรี่ออกจากที่ซ่อนในป่า จำเลยกับพวกและผู้ตายกับพวกได้พากันไปพูดจาซื้อขายบุหรี่ที่ในห้างไร่ แล้วพวกของจำเลยคนหนึ่งใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อผู้ตายถูกยิงและพวกของผู้ตายหนีไปแล้ว จำเลยกับพวกก็ได้หายไปจากห้างไร่ที่เกิดเหตุพร้อมด้วยบุหรี่ของผู้ตาย ศาลฎีกาเห็นว่า ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองได้รู้เห็นเป็นใจหรือร่วมด้วยในการที่พวกของจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตาย การยิงผู้ตายจึงเป็นการกระทำของพวกจำเลยผู้ที่ยิงนั้นแต่เฉพาะตัว จำเลยทั้งสองไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแต่การที่จำเลยกับพวกได้หายไปพร้อมด้วยบุหรี่ของผู้ตาย ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันลักเอาบุหรี่ของผู้ตายนั้นด้วย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share