แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฝ่ายผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ แล้วจำเลยขับรถจักรยานยนต์พานาย ฉ. ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่มีรถจักรยานยนต์ของกลาง การกระทำความผิดในคดีนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น การที่จำเลยกับพวกกระทำความผิดในคดีนี้สำเร็จหรือไม่ จึงอาศัยการใช้รถจักรยานยนต์เป็นสำคัญ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด จึงต้องริบตาม ป.อ. มาตรา 33 (1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 288, 295, 371 ริบอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 83 จำคุก 2 ปี ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง แต่ให้ริบอาวุธปืนของกลาง ส่วนรถจักรยานยนต์ของกลางคืนให้แก่เจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ปัญหาที่ต้องพิจารณาตามฎีกาของโจทก์มีว่ารถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน กมข สระบุรี 264 ที่จำเลยใช้ขับในขณะเกิดเหตุ เป็นทรัพย์ที่ต้องริบหรือไม่ เห็นว่า เหตุคดีนี้เนื่องมาจากฝ่ายผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ แล้วจำเลยขับรถจักรยานยนต์พานายเฉลิมชัยไปยิงผู้เสียหาย หากไม่มีรถจักรยานยนต์ของกลาง การกระทำความผิดในคดีนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น การที่จำเลยกับพวกกระทำความผิดในคดีนี้สำเร็จหรือไม่ จึงอาศัยการใช้รถจักรยานยนต์เป็นสำคัญ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด จึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น