คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ว.สนใจอยากจะได้ที่ดิน ได้ไปหา พ. พ.ได้เขียนชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้ ต่อมา ว. ได้ติดต่อกับจำเลยจนได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันสำเร็จ หลังจากนั้น ว. จึงทราบว่า พ.ว่า ชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยที่ พ.จดให้นั้นได้มาจากโจทก์ โดยจำเลยเคยแจ้งให้โจทก์หาผู้ซื้อที่ดินหรือจัดหานายหน้า หวังจะให้โจทก์ได้รับประโยชน์ร่วมกับนายหน้า ฉะนั้น การที่ ว.สามารถติดต่อกับจำเลยได้โดยตรงก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่โจทก์ได้บอกชื่อ และตำบลที่อยู่ของจำเลยไว้กับ พ. การกระทำของโจทก์จึงเป็นการชี้ช่อง หรือจัดการให้ทำสัญญาสำเร็จตามความหมายแพ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าจัดการขายที่ดินของจำเลยโดยจะให้บำเหน็จ โจทก์ได้จัดการขายที่ดินของจำเลยสำเร็จ ขอให้ชำระค่าบำเหน็จนายหน้า
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้เป็นนายหน้า จำเลยเพียงเคยแจ้งให้โจทก์หาผู้ซื้อหรือจัดหานายหน้าโดยหวังจะให้โจทก์ได้รับประโยชน์ร่วมกับนายหน้า การที่จำเลยขายที่ดินได้ มิใช่เกิดจากการที่โจทก์หรือผู้ใดร่วมกับโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องหรือจัดการ
โจทก์จำเลยท้ากันเพียงประเด็นเดียวว่า ถ้านายวิชัย สกุลดี เบิกความว่าซื้อที่ดินตามฟ้องจากจำเลยเพราะโจทก์เป็นนายหน้าผู้ชี้ช่องให้เข้าทำสัญญา จำเลยยอมแพ้ หากนายวิชัยซื้อที่ดินโดยโจทก์ไม่ได้เป็นนายหน้าชี้ของ โจทก์ยอมแพ้ ให้ศาลสืบและวินิจฉัยจากคำเบิกความของนายวิชัยเพียงปากเดียว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า นายวิชัยได้ซื้อที่ดินจากจำเลย เนื่องมาจากผลที่โจทก์ได้ชี้ช่องจัดการจนเป็นผลสำเร็จ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าบำเหน็จนายหน้า ๑๖,๘๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งปีนับแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๗ ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๓๑๕ บาท และต่อจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียนมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายวิชัยเบิกความว่านายวิชัยสนใจอยากจะได้ที่ดินตามฟ้อง ได้ติดต่อกับนายณรงค์ว่า ถ้าสนใจจะซื้อให้ไปติดต่อกับนายพิชัย นายวิชัยจึงพาไปหานายพิชัย นายพิชัยได้เขียนชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้ ต่อมา นายวิชัยได้ติดต่อกับจำเลยจนได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันสำเร็จ หลังจากนั้นนายวิชัย จึงทราบว่า นายพิชัยว่า ชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลย นายพิชัยจดให้นั้นได้มาจากโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยให้การรับว่าเคยแจ้งให้โจทก์หาผู้ซื้อที่ดินหรือจัดหานายหน้า หวังจะให้โจทก์ได้รับประโยชน์ร่วมกับนายหน้า ฉะนั้น การที่ นายวิชัยสามารถติดต่อกับจำเลยได้โดยตรงก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่โจทก์ได้บอกชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยไว้กับ นายวิชัยการกระทำของโจทก์จึงเป็นการชี้ช่องหรือจัดการให้ทำสัญญาสำเร็จตามความหมายแพ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๔๕ แล้ว
พิพากษายืน

Share