แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กับผู้ร้องต่างเป็นเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาของจำเลยแต่ต่างศาลกัน โจทก์ฟ้องและชนะคดีที่ศาลจังหวัดอุดรธานี แล้วบังคับคดียึดทรัพย์ จำเลยซึ่งมีอยู่ในเขตศาลจังหวัดราชบุรี ผู้ร้องฟ้องและชนะคดีที่ศาลจังหวัดราชบุรี เมื่อปรากฏว่าศาลจังหวัดราชบุรีพิพากษาให้ผู้ร้องชนะคดี เมื่อวันสุดท้ายแห่งการขอเฉลี่ยตามสำนวนที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ปรากฏว่า จากวันฟ้องถึงวันที่ศาลพิพากษาก็เป็นเวลาสองเดือน กับสองวัน เมื่อศาลพิพากษาแล้ว ผู้ร้องไม่มีเวลาพอที่จะไปยื่นคำร้องที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ดังนี้ ผู้ร้องก็ชอบก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอเฉลี่ย ต่อศาลจังหวัดราชบุรีในกรณีเหตุฉุกเฉินตามมาตรา 10 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ศาลสั่งยกคำร้องเพราะเหตุผู้ร้องไม่ได้ยื่นต่อศาลจังหวัดอุดรธานีที่พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นสั่งให้รับคำร้องขอเฉลี่ยไว้พิจารณาต่อไป นั้น กรณียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งผู้ร้องยังโต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดราชบุรีไม่ยอมรับคำร้องของผู้ร้องยังหาได้มีคำสั่งยกคำร้องขอเฉลี่ย โดยเหตุที่ยื่นไม่ทันกำหนดแต่ประการใดไม่ เรื่องจึงยังไม่ต้องด้วยมาตรา 291 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบัญญัติให้ขอจากเงินเหลือจ่าย
ย่อยาว
คดีนี้ จำเลยทั้งสองแพ้คดีรวมทั้งสองสำนวน ๆ แรกของศาลจังหวัดอุดรธานี นางละมุนเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษา ได้ขอบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสองขายทอดตลาด ศาลจังหวัดอุดรธานีขอให้ศาลจังหวัดอุดรธานีขอให้ศาลจังหวัดราชบุรียึดและขาดทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยอยู่ในเขตศาลจังหวัดราชบุรี ยึดและขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแทน เพราะทรัพย์ของจำเลยอยู่ในเขตศาลจังหวัดราชบุรี ศาลจังหวัดราชบุรีได้ขาย ทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแล้วส่วนสำนวนที่สอง นางสาวลำภูศรี ได้เป็นเจ้าหนี้จำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดราชบุรี นางสาวลำภูศรีโจทก์ในคดีหลังยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินที่ ได้จากการขายทอด ตลาดทรัพย์ของจำเลยทั้งสอง โดยอ้างว่า ศาลจังหวัดราชบุรี เพิ่งพิพากษา ให้ผู้ร้องชนะคดีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๒ ดังนั้น วันสุดท้ายแห่งขอเฉลี่ยจึงเป็นที่ผู้ร้องชนะคดี ผู้ร้องไม่สามารถของเฉลี่ยทางศาลจังหวัดอุดรธานีได้ทัน เพราะห่างไกลกันมาก ขอให้ศาลจังหวัดราชบุรี สั่งรับคำร้องเพื่อศาลจังหวัดอุดรธานีจะได้พิจารณาต่อไป ตาม มาตรา ๑๐ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ แพ่ง
ศาลจังหวัดราชบุรีสั่งคำร้องของนางสาวลำภูศรีว่า โจทก์ชอบที่จะยื่นตรงต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นศาลเจ้าของสำนวน โจทก์จะยื่นคำร้องต่อศาลนี้ได้เมื่อมีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๐ กรณีโจทก์ไม่ต้องด้วยวิธีพิจารณาดังกล่าว ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องมีเหตุความจำเป็น นับว่า เป็นเหตุสุดวิสัย พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้รับคำร้องของนางสาวลำภูศรีไว้พิจารณาต่อไป
นางละมุนโจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสำนวนที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ปรากฏว่า จากวันฟ้องวันวันที่ศาลพิพากษาเป็นเวลา ๒ เดือน กับ ๒ วัน เมื่อศาลพิพากษาแล้ว ผู้ร้องไม่มีเวลาพอจะไปยื่นคำร้องที่ศาลจังหวัดอุดรธานี นับว่าผู้ร้องมีเหตุผลความจำเป็นอันจะอ้างเป็นเหตุสุดวิสัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๐
ส่วนเรื่องมาตรา ๒๙๑ ที่โจทก์กล่าวมาในฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า กรณี ยังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งผู้ร้องยังโต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดราชบุรีไม่ยอมรับคำร้องของผู้ร้อง ยังหาได้มีคำสั่งยกคำร้องของเฉลี่ยโดยเหตุที่ยืนไม่ทันกำหนด แต่ประการใดไม่เรื่องจึงยังไม่ต้องด้วยมาตรา ๒๙๑ ซึ่งบัญญัติให้ขอจากเงินเหลือจ่าย
พิพากษายืน