แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าทรัพย์ยอมให้จำเลยช่วยถือทรัพย์ไว้แทนตนและไปด้วยกัน การครอบครองในทรัพย์ยังตกอยู่แก่เจ้าของทรัพย์ การที่จำเลยบังอาจพาทรัพย์นั้นหนีไป ให้พ้นจากความครอบครองของเจ้าของทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๘๘, ๒๙๓, ๒๙๔ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓ (๑), ๒๙๔(๔) ตอนสอง จำคุก ๓ ปี และคืนหรือใช้ราคาทรัพย์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยได้เอาทรัพย์รายนี้ไปจริง โดยจำเลยได้พูดจาและแสดงกริยาว่าจะช่วยถือปืนและของในกระเป๋าหนังนั้นไว้ให้ และจะพา ส.ต.ท.สมศักดิ์ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ไปส่งยังที่พัก เพราะเวลานั้น ส.ต.ท.สมศักดิ์เมาสุรามาก แล้วจำเลยหยิบกระเป่านั้นไปถือ ส.ต.ท.สมศักดิ์ มิได้มอบหมายปืนให้แก่จำเลยไปไหน เพื่อกิจการอย่างใดเพียงแต่ยอมให้ถือของไว้แทนตน และไปด้วยกัน การครอบครองในทรัพย์ยังตกอยู่แต่ ส.ต.ท.สมศักดิ์ การที่จำเลยบังอาจพาทรัพย์นั้นหนีไปให้พ้นจากความครอบครองของ ส.ต.ท.สมศักดิ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
พิพากษายืน