คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ใบหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดินมีชื่อจำเลยที่ 2 อยู่ด้วยไม่ทำให้ฟังว่าจำเลยที่ 2 มีสิทธิ์ใดในที่ดินเว้นแต่จำเลยที่ 2 จะได้เคยครอบครองที่ดินนั้นอยู่แล้วในวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน

ย่อยาว

โจทก์ชนะคดีจำเลย ๆ ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา ยึดที่ 2 แปลง ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

ผู้ร้องยื่นคำร้องขัดทรัพย์ที่ดิน 2 แปลงที่โจทก์ยึดว่าเป็นของผู้ร้อง ซึ่งโจทก์ยืนยันว่าเป็นของจำเลยที่ 2

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ที่ดินแปลงที่ 1 นางสองเมืองจำเลยที่ 2 มีส่วนเป็นเจ้าของเพราะแจ้งการครอบครองที่ดินตามเอกสาร จ.1 ตามที่คู่ความรับกัน จึงพิพากษาให้ยกคำร้องขัดทรัพย์สำหรับที่ดินแปลงที่ 1 เสีย

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่ดินแปลงที่ 1 เป็นของนายมูลผู้ร้องซื้อมาจากนายแหลง คำวงศ์ เมื่อ พ.ศ. 2473 ตามสัญญาซื้อขาย ร.1 จึงฟังว่าที่แปลงที่ 1 ก็เป็นของผู้ร้อง การที่โจทก์อ้างว่าที่นี้ส่วนหนึ่งเป็นของนางสองเมือง โจทก์ก็ต้องนำสืบว่านางสองเมืองเป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองในที่นั้น แบบแจ้งการครอบครองที่ดินไม่ใช่หลักฐานแห่งกรรมสิทธิ์อันจะทำให้ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าที่ดินเป็นของผู้แจ้งการครอบครองเสมอไป เพราะการแจ้งการครอบครองไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้มีสิทธิครอบครองแล้วโดยชอบด้วยกฎหมายในวันใช้บังคับประมวลกฎหมายที่ดิน คดีต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ชอบ จึงให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นเสีย และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาใหม่ โจทก์และผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share