คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2480

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกจากจำเลยซึ่งเป็นทายาท++กันเองเกิน 1 ปีนับแต่+++เจ้ามฤดกตายแล้วมิได้++ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ปกครองทรัพย์มฤดกแทนโจทก์ +++ผู้ปกครองทรัพย์มฤดก++ด้วยวาจาจะแบ่ง+++ให้ แต่มิได้ทำเป็นหนังสือรับรองด้วยประการ+++จะถือว่าเป็นการปราณีประนอมยอมความหรือรับ++++นี้มิได้ คำรับรองเช่น++++มีผลในกฎหมายอย่างใด อายุความตาม ม. 184 ใช้+++แต่ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นผู้วิกลจริตจะว่ากล่าว+++แก่ผู้แทนโดยชอบธรรมเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของ ค. จากจำเลยแต่ฟ้องเกิน ๑ ปี นับแต่วันที่ ค. ถึงแก่กรรม
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาตัดสินว่าข้อที่ โจทก์ ฎีกาว่า จำเลยที่ ๑ เคยพูดว่าจะแบ่งทรัพย์ให้นั้นไม่มีผลในกฎหมายอย่างใดเพราะเป็นแต่พูดด้วยวาจามิได้ทำเป็นหนังสือรับรองแต่ประการใดจะถือว่าเป็นการปราณีประนอมยอมความหรือรับสภาพหนี้ตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๘๕๑ และ ๑๓๒ ก็ไม่ได้ ส่วนข้อที่ว่าคดีของ โจทก์อยู่ในบังคับ ม. ๑๘๔ นั้นเป็นเรื่องผู้เยาว์หรือผู้วิกลจริตจะว่ากล่าวเป็นคดีแก่ผู้แทนโดยชอบธรรมท่านจึงบัญญัติว่าอายุความไม่ครบบริบูรณ์จนกว่าจะพันปีหนึ่งภายหลังที่บุคคลนั้นบรรลุถึงความสามารถเต็มภูมิหรือมีผู้แทนโดยชอบธรรมใหม่ แต่ข้อเท็จจริงฉเพาะคดีนี้จำเลยซึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์มิได้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์จึงจะยกมาตรานี้มาบังคับมิได้ พิพากษายืนตาม ศาลอุทธรณ์

Share