แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
อุทธรณ์ของจำเลยข้อที่ว่า จำเลยกระทำความผิดไปเพราะขาดความยั้งคิด เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงที่ขัดกับคำให้การรับสารภาพของจำเลย จึงถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (8) จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยข้อที่ว่า จำเลยกระทำความผิดไปเพราะขาดความยั้งคิด ซึ่งจำเลยอ้างในฎีกาว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ชี้ให้เห็นว่า จำเลยมิได้มีเจตนาให้เกิดผลรุนแรงถึงขั้นทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสนั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงที่ขัดกับคำให้การรับสารภาพของจำเลย จึงถือว่าเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่รับวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวจึงชอบแล้ว
มีปัญหาวินิจฉัยต่อไปว่า สมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า จำเลยใช้อาวุธมีดปังตอขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 7 นิ้ว กว้างประมาณ 3 นิ้ว ฟันผู้เสียหายหลายครั้ง ถูกบริเวณหัวไหล่ด้านซ้าย มีบาดแผลฉีกขาด ลึกถึงกระดูกสะบักและมีการแตกของกระดูกสะบัก จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง แม้จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรองการลงโทษให้ ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยจึงเหมาะสมแก่ความผิดของจำเลยแล้ว แต่ภายหลังกระทำความผิดจำเลยรู้สึกสำนึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายโดยชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายจนผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ จึงสมควรกำหนดโทษจำคุกเสียใหม่เพื่อให้เหมาะสมแก่รูปคดี”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2