คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตัวการมอบพวงคอเพ็ชรให้แก่ตัวแทนเพื่อไปขายแก่บุคคลภายนอกแต่ตัวแทนกลับนำพวงคอเพ็ชรนั้นไปเป็นหลักประกันแทนแหวนเพ็ชร ที่ตัวแทนจำนำไว้กับบุคคลภายนอก โดยบอกกับบุคคลภายนอกว่าตัวการให้นำพวงคอเพ็ชรมาเป็นหลักประกันแทนแหวนเพ็ชรและขอรับแหวนเพ็ชรกลับไป ดังนี้ ถือว่าทางปฏิบัติของตัวการที่เคยใช้ตัวแทนให้จำนำทรัพย์แก่บุคคลภายนอกมาแล้วนั้น ทำให้บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่า การจำนำโดยการแลกเปลี่ยนกับทรัพย์ที่จำนำไว้นั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของตัวแทนตามที่ตัวแทนบอกยืนยันตัวการ จึงต้องผูกพันต่อบุคคลภายนอกในกิจการที่ตัวแทนได้ทำไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820,822

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้มอบพวงคอเพ็ชรราคา 85,000 บาท ให้จำเลยที่ 1 นำไปขายแก่จำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 1 กลับเอาพวงคอเพ็ชรนี้ไปมอบเป็นหลักประกันแทนแหวนเพ็ชรที่จำเลยที่ 1 จำนำไว้กับจำเลยที่ 2 นานแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการทุจริต ไม่มีสิทธิอย่างใดตามกฎหมายจำเลยที่ 2 ก็ได้ยินยอมเห็นด้วยในการกระทำของจำเลยที่ 1 ยอมมอบแหวนคืนแก่จำเลยที่ 1 ยึดเอาพวงคอเพ็ชรของโจทก์ไว้ จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันและแทนกันคืนพวงคอเพ็ชรให้โจทก์ ถ้าคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 85,000 บาท กับค่าเสียหาย 15,000 บาท

จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่า โจทก์มอบให้นำพวงคอเพ็ชรไปเปลี่ยนเอาแหวนเพ็ชร 2 วงซึ่งโจทก์ให้จำเลยจำนำไว้กับจำเลยที่ 2 จำเลยก็จัดการนำไปเปลี่ยนและคืนแหวนให้แก่โจทก์แล้ว

จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าทำไปโดยสุจริต

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ผู้เดียวคือพวกคอเพ็ชร หรือใช้ราคาให้แก่โจทก์รวมทั้งค่าเสียหาย ยกฟ้องเฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นไปด้วยเจตนาทุจริตปราศจากสิทธิอย่างใด ๆ อันพึงกระทำได้ตามกฎหมาย แล้วจำเลยที่ 2 ก็ได้ยินยอมเห็นด้วยในการกระทำของจำเลยที่ 1 ฉะนั้น โจทก์จะต้องนำสืบว่า จำเลยที่ 2 ได้รู้ว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปเกินขอบเขตอำนาจแห่งฐานะตัวแทน แต่ตามที่โจทก์นำสืบก็ไม่ได้ความว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้ว่า เจ้าของพวกคอเพ็ชรได้มอบมาเพื่อขายเท่านั้น การที่โจทก์มอบพวงคอเพ็ชรให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้ซึ่งเคยจำนำทรัพย์ของโจทก์มา หากจะมีความประสงค์เพียงให้ขายอย่างเดียวก็ดี แต่ก็เป็นทางปฏิบัติของโจทก์ทำให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่า การจำนำโดยการแลกเปลี่ยนกับทรัพย์ที่จำนำไว้นั้นอยู่ภายในขอบอำนาจของจำเลยที่ 1 ผู้เป็นตัวแทน สมดังที่จำเลยที่ 1 มาบอกยืนยันโจทก์ผู้เป็นตัวการย่อมมีความผูกพันต่อจำเลยที่ 2 ผู้เป็นบุคคลภายนอกในกิจการที่จำเลยที่ 1 ได้ทำไป ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822, 820

จึงพิพากษายืน

Share