แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯ มาตรา 34 และ 34/1 กำหนดให้ศาลฎีการับวินิจฉัยเฉพาะกรณีที่มีการโต้แย้งกันเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น หาได้กำหนดให้ศาลฎีกามีอำนาจรับวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อด้วยไม่
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันที่ 2 เมษายน 2549 โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 2 ถึง 3 มีนาคม 2549 ซึ่งพรรคกิจสังคมได้ส่งผู้สมัครจำนวน 1 คน คือนายสุชาติ เกียรติสยมภู ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 109 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตัดสิทธิทำให้ผู้สมัครของพรรคที่ได้ยื่นเอกสารถูกต้องก่อนเวลา 8 นาฬิกา ไม่มีสิทธิได้จับสลากเพื่อเป็นหมายเลขที่จะใช้ลงคะแนนเลือกตั้งเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ โดยอ้างว่าพรรคส่งผู้สมัครต่ำกว่า 5 คน ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำไว้ ขอให้ศาลฎีกาไต่สวนและมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งและให้รับสมัครเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของผู้ร้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 34 และ 34/1 กำหนดให้ศาลฎีการับวินิจฉัยเฉพาะกรณีที่มีการโต้แย้งกันเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น กฎหมายหาได้กำหนดให้ศาลฎีกามีอำนาจรับวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อด้วยไม่ กรณีตามคำร้องของผู้ร้องจึงไม่เข้าเกณฑ์ตามบทกฎหมายข้างต้น ที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้ได้ ให้ยกคำร้อง”