คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247-1248/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ม.308 นั้น ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จำเลยจะยกขึ้นต่อสู้หลังจากวันชี้สองสถานและสืบพยานโจทก์ไปแล้วไม่ได้

ย่อยาว

นายทองสุข ธาระ ผู้เป็นเจ้าของเรือ ” ธาระประเสริฐ ” ที่ล่มและนายศิริ คำเจริญนายสุรินทร์ คำเจริญ ผู้โดยสารในเรือลำที่ล่มได้เป็นโจทย์ฟ้องนายจำรัส ทิพโกสัย เจ้าของเรือ ” ช่วยชูสมบัติ ” จำเลยที่ ๑ และนายเปลี่ยนช่วยชู นายท้ายเรือ จำเลยที่ ๒ ว่าจำเลยที่ ๒ ประมาทขับเรือมาชนเรือโจทก์ล่ม ขอให้จำเลยทั้งสองให้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้งสองปฏิเสธว่า มิได้ประมาทเลินเล่อเป็นความผิดของเรือโจทก์เอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาทั้ง ๓ สำนวน แต่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาสำนวนนายสุรินทร์ เพราะทุนทรัพย์ไม่ถึง ๒,๐๐๐ บาท คงเหลือมาสู่ศาลฎีกาเพียง ๒ สำนวน
ศาลฎีกาฟ้งข้อเท็จจริงว่า จำเลยประมาทเป็นเหตุให้ชนเรือโจทก์ล่มจริง ข้อต่อสู้จำเลยที่ว่าโจทก์ฟ้องเมื่อเกิน ๖ เดือน ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.๒๔๕๖ ม.๓๐๘ นั้นจำเลยขึ้นต่อสู้ภายหลังการซื้อสองสถานและโจทก์สืบพยานไป ๒ นัดแล้ว ปัญหาอายุความนี้ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลชั้นต้นไม่รับเป็นคำให้การต่อสู้ชอบแล้ว ศาลฎีกาจึ
พิพากษายืน

Share