คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกทรัพย์สินโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 นั้น เพียงแต่เรียกก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว แม้จะยังไม่ได้ทรัพย์ที่เรียกไปก็ตาม หรือแม้จะมีการกลับกระทำการโดยชอบด้วยหน้าที่ในภายหลังก็ตาม ก็ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแต่ขณะเรียกแล้ว หาใช่พยายามไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเรียกเอาสายนาฬิกาข้อมือ ๑ สาย ราคา ๑๐๐ บาท จากนายไซ แซ่ตั้ง เพื่อละเว้นไม่นำตัวนายไซไปดำเนินคดีฐานไม่นำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวติดตัว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘, ๑๔๙, ๑๕๗
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ (แต่ไม่ผิดตามมาตรา ๑๔๘, ๑๕๗) ลงโทษจำคุก ๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงพยายาม
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยเรียกร้องเอาสายนาฬิกาจากนายไซเพื่อละเว้นไม่ดำเนินคดีแก่นายไซนั้น ย่อมเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙ แล้วแม้ว่าจำเลยจะยังมิทันได้สายนาฬิกานั้นไป และแม้ในที่สุดจำเลยจะได้นำนายไซไปดำเนินคดีเรื่องไม่เอาใบต่างด้าวติดตัวจนนายไซถูกปรับ ๒๐ บาทก็ตาม ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
จึงพิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.

Share