แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว ลูกหนี้พูดว่า ยังจัดหาเงินไม่ได้ ขอผัดเวลาชำระหนี้อีก 1 เดือน เจ้าหนี้บอกว่า ไม่เป็นไรหามาให้ครบ ดังนี้ เป็นการพูดกันด้วยปาก ไม่เป็นการผูกมัดเจ้าหนี้ว่า ภายใน 1 เดือนที่ลูกหนี้ขอผัดนั้น เจ้าหนี้จะฟ้องเรียกให้ชำระหนี้ไม่ได้ คือเจ้าหนี้จะฟ้องเรียกให้ลูกหนี้ชำระก็ได้ ฉะนั้นยังเรียกให้ไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ผ่อนเวลสให้ลูกหนี้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 700 ผู้ค้ำประกันหนี้รายนี้ จึงยังไม่หลุดพ้นจากความรับผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่นายทาชิมซิงห์กู้จากโจทก์ไป ๕๐๐๐ บาท ถึงกำหนดชำระ นายทาชิมซิงห์ยังไม่ได้ชำระ นายทาชิมซิงห์ตายเสียแล้ว จึงขอให้จำเลยที่ ๒ ชำระ
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า หนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว โจทก์ผ่อนเวลาให้ลูกหนี้ จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิด
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระต้นเงินและดอกเบี้ยตามฟ้องให้โจทก์
นายย่งล่งจำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ผ่อนเวลาให้นายทาชิมซิงห์ลูกหนี้ โดยจำเลยที่ ๒ มิได้ตกลงด้วย จำเลยที่ ๒ จึงย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒ รับผิดเสีย
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกา เห็นว่า เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว นายทาชิมซิงห์ พูดกับโจทก์ว่า เวลานี้ยังจัดหาเงินไม่ได้ ขอผัดอีก ๑ เดือน โจทก์บอกว่า ไม่เป็นไรหามาให้ครบ ดังนี้ เป็นการพูดกันด้วยปาก ไม่เป็นการผูกมัดโจทก์ว่าภายใน ๑ เดือนที่นายทาชิมซิงห์ขอผัดหนี้ โจทก์จะฟ้องเรียกร้องเงินกู้ ไม่ได้ กล่าวคือในระยะขอผัด ๑ เดือนนั้น โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากนายทาชิมซิงห์ ก็ได้ จึงถือไม่ได้ว่า โจทก์ผ่อนเวลาให้ลูกหนี้ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๗๐๐ จำเลยที่ ๒ ย่อมไม่พ้นความรับผิดด้วย จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น