คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยในกะทงความผิดฐานทำ ตัดฟัน ชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตในกะทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายและในกะทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จ จำคุกจำเลย 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในข้อเท็จจริง แต่แก้โทษลดลงเหลือ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ จำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดฟันชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจำลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 132 หรือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทุจริตต่อหน้าที่ ใช้ดวงตราผิดกฎหมาย ทำและมีไม้หวงห้ามไม่รับอนุญาต
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองสมคบกันทำและมีไม้หวงห้ามโดยไม่รับอนุญาต ทั้งเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ราชการโดยทุจริตหาประโยชน์ใส่คนโดยมิชอบ จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมาย และผิดฐานจดหนังสือราชการ และทำหลักฐานเท็จพิพากษาให้ลงจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑, ๑๖๐, ๑๖๒ ๘๓, ๘๔ และให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตาม มาตรา ๑๕๑, ๘๓ รวมกะทงลงโทษจำเลยที่ ๑ ให้จำคุกไว้ ๓ ปี จำเลยที่ ๒ ให้จำคุกไว้ ๑ ปี ๖ เดือน ไม้ของกลางริบ ข้อหานอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทั้งสองทำผิดฐานทำ ตัดฝันชักลากไม้ โดยไม่รับอนุญาต แต่ไม่เป็นความ ผิดฐานเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่หาประโยชน์อันมิควรได้ตามความในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๗๒ จึงลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ ไม่ได้ ส่วนข้อหาฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมายฟังว่า จำเลยที่ ๑ ทำผิดจริง และจำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานจดหนังสือราชการ เป็นคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ให้ริบไม่รายนี้ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นความเท็จ และกระทำโดยจำเลยมีตำแหน่งหน้าที่ พิพากษาแก้ว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗๓ (ฉบับที่๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ กะทงหนึ่งให้ปรับจำเลยทั้งสองคนละ ๕๐๐ บาท จำเลย ที่ ๑ ผู้เดียวมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๑๒ และ ๒๓๐ อีก ๒ กระทง เพราะความผิดตาม มาตรา ๒๓๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๖๒ กำหนดโทษเบาเป็นคุณแก่จำเลย ให้ลงโทษตาม มาตรา ๑๖๒ รวม ๒ กะทง ให้จำคุกจำเลยที่ ๑ ๒ ปี นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกาในข้อเท็จจริง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในความผิดฐานเจ้าพนักงานใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริต ซึ่งศาลอุทธรณ์แก้ให้ยกเสียนั้นด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยมาในกะทงความผิดฐานตัดฟัน ชักลากไม้โดยไม่รับอนุญาต ในกะทงความผิดฐานใช้ดวงตราผิดกฎหมาย และกะทงความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานจดหนังสือราชการอันเป็นหลักฐานเท็จนั้น ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนในข้อเท็จจริง ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและอัตราโทษจำคุกจำเลยก็แก้ไข น้อยจาก ๓ ปี ่ลดมาเหลือ ๒ ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม วิ.อ. มาตรา ๒๑๘ จำเลยทั้งสองจึงฎีกาไม่ได้
ส่วนในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตศาลชั้นต้น ลงโทษจำเลย แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้งสองไม่ผิดนั้น คดีนี้โจทก์ถือว่า เมื่อโจทก์กล่าวฟ้องสรุปความได้ว่า จำเลยใช้จ้างวานคนทำไม้หวงห้ามโดยรับอนุญาต และจำเลยเป็นเจ้าพนักงานป่าไม่อยู่ ก็ต้องถือว่า เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทางทุจริตหาประโยชน์ใส่ตัวด้วย ซึ่งเป็นการกระทำอันเดียวแต่ละเมิดกฎหมายหลายบท ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องที่ว่าจำเลยใช้จ้างวานคนไปตัดชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ไม่ได้กล่าวว่า จำเลยเอาอำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ราชการไปใช้จ้างวานคนให้กระทำผิดเช่นนั้นด้วยเลย จึงเป็นเรื่องที่ใช้จ้างวานให้คนไปกระทำผิดเป็นส่วนตัว ย่อมจะลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ในทางทุจริตตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๑๗๒ หรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ หาได้ไม่
พิพากษายืน

Share