คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยจังหวัดชัยภูมิไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้รับเงิน ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบฉันทะให้สารวัตรสุขาภิบาลแผนกอนามัยไปรับเงินแทน แล้วสารวัตรสุขาภิบาลยักยอกเงินนั้นไปด้วยความประมาทเลินเล่อของผู้ว่าราชการจังหวัดและอนามัยจังหวัดดังนี้ เป็นกรณีละเมิด ต้องใช้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 วรรค 1 โดยนับแต่วันที่กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกจากสำนวนสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องยักยอกเงินรายนี้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2504)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า กรมอนามัยได้ส่งเงินงบประมาณแผ่นดินรวม ๓๓,๙๒๕ บาท ไปให้จังหวัดชัยภูมิเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสถานีอนามัยในจังหวัดนั้น โดยจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับเงิน จำเลยที่ ๑ ได้มอบฉันทะให้นายมณี สารวัตรสุขาภิบาลตรีแผนกอนามัยจังหวัดเป็นผู้รับเงินแทน แล้วนายมณีได้ยักยอกเงินจำนวนนี้ไปเพราะความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นอนามัยจังหวัดชัยภูมิ การกระทำของจำเลยทั้ง ๒ เป็นละเมิด จึงขอให้ร่วมกันใช้เงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้ง ๒ ให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง และคดีขาดอายุความ ๑ ปีแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ แต่คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๘ วรรค ๑ แล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า คดีไม่ขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเช่นนี้ จำเลยต้องรับผิดฐานละเมิด แต่ทางพิจารณาได้ความว่า กระทรวงการคลังได้รับทราบการยักยอกเงินรายนี้พร้อมทั้งผู้มีส่วนจะต้องรับผิดชอบคือจำเลยทั้ง ๒ นับแต่วันได้รับหนังสือและสำนวนสอบสวนพร้อมกับความเห็นของคณะกรรมการผู้สอบสวน จนถึงวันฟ้องคดีนี้เป็นเวลา ๑ ปี ๗ เดือนเศษแล้ว ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ จึงพิพากษายืน

Share