คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิทธิที่จะใช้ทางผ่านที่ดินจำเลยตามสัญญาระหว่างสามีโจทก์กับจำเลย แม้จะมิได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็นทรัพย์สิทธิที่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งแลพาณิชย์ มาตรา 1299 แต่ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา และมิใช่สิทธิที่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของคู่สัญญาโดยแท้ เมื่อคู่สัญญาตายไปสิทธิดังกล่าวย่อมตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายอำนวย แซ่หลิม สามีโจทก์กับจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาให้ทำถนน โดยจำเลยยอมให้นายอำนวยทำถนนผ่านที่ดินจำเลยกว้าง ๓ เมตร ยาว ๒๕ เมตร คิดค่าตอบแทน ๑,๐๐๐ บาท นายอำนวยใช้ที่ดินจำเลยเป็นเส้นทางเข้าออกตลอดมา ต่อมานายอำนวยตายหลังจากนายอำนวยตายแล้วจำเลยได้ปิดเส้นทางดังกล่าวไม่ให้โจทก์และบริวารใช้เส้นทางเข้าออกผ่านที่ดินจำเลยอีก ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากทางภารจำยอม หากไม่รื้อถอนให้โจทก์เป็นผู้รื้อแทน ห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์และนายอำนวยได้ทำเอกสารสัญญาท้ายฟ้องปลอมขึ้น โจทก์หรือนายอำนวยไม่เคยใช้หรือเจตนาใช้ที่ดินจำเลยเป็นทางภารจำยอม โจทก์ได้ภารจำยอมมาโดยนิติกรรมซึ่งทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เมื่อไม่ได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมไม่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๙๙ เป็นบุคคลสิทธิระหว่างจำเลยกับนายอำนวยเท่านั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามเพราะไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้ตายที่จะตกทอดไปยังโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและไม่ใช่สิทธิอันเป็นมรดกของผู้ตายที่จะตกทอดแก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๐๐ และฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์และจำเลยต่างแถลงท้ากันให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายข้อเดียวว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องจะมีผลตกทอดแก่ทายาทหรือไม่ ต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยานและประเด็นอื่นไม่ติดใจโต้เถียงกันต่อไป ถ้าศาลวินิจฉัยว่านิติกรรมนั้นตกทอดแก่ทายาทให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดี ถ้าวินิจฉัยว่าไม่ตกทอดแก่ทายาท จำเลยเป็นฝ่ายชนะคดี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องไม่ตกทอดแก่ทายาท โจทก์จึงเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นิติกรรมเกี่ยวกับภารจำยอมที่โจทก์ฟ้องตกทอดแก่ทายาท จำเลยจึงเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า พิพากษากลับให้จำเลยรื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากทางภารจำยอมและห้ามจำเลยกระทำการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางการใช้ทางภารจำยอมของโจทก์อีกต่อไป ให้ยกคำขอในส่วนที่ให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนได้เองเสีย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่นายอำนวยสามีโจทก์มีสิทธิที่จะใช้ทางผ่านที่ดินจำเลยตามสัญญาที่ทำไว้กับจำเลยและจำเลยได้รับค่าตอบแทนไปแล้ว แม้จะมิได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็นทรัพยสิทธิที่บริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๙๙ แต่ก็เป็นบุคคลสิทธิใช้บังคับกันได้ระหว่างคู่สัญญา และมิใช่สิทธิที่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้วเป็นการเฉพาะตัวของนายอำนวยโดยแท้ เมื่อนายอำนวยตายไปสิทธิดังกล่าวย่อมตกทอดแก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๙๙, ๑๖๐๐ จำเลยจึงต้องแพ้คดีตามคำท้า ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share