คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจดีย์ ซึ่งทางราชการขึ้นทะเบียนเป็นโบรารสถานอยู่ในอารักขาของทางราชการนั้น ถ้ามีผู้อื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของพระเจดีย์องค์นั้นไปขุดทำลายหรือทำให้เสียหายแก่พระเจดีย์นั้น ผู้นั้นยังไม่ผิดตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยโบราณสถาน ศิลปวัตถุ โบราณสถานวัตถุ ฯลฯ พ.ศ.2477 ฉะนั้นจึงจะลงโทษตามมาตรา 30 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลอบขุดพระเจดีย์ในวัดมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี เป็นหารทำลายทำให้เสียหายแก่พระเจดีย์องค์นี้ ซึ่งทางราชการได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลรักษาของทางราชการ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยโบรารสถาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และการพิพธภัณฑ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา ๑๐, ๓๐.
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลสอบโจทก์ โจทก์รับว่า จำเลยไม่ใช่เจ้าของโบราณสถานแห่งนี้ ศาลชั้นต้นจึงเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตามมาตรา ๑๐ ฉะนั้นจะใช้กำหนดโทษในมาตรา ๓๐ ลงแก่ไม่จำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๓๐ มีความเกี่ยวโยงถึงมาตรา ๑๐ คือ ต้องให้ได้ความว่ามีการฝ่าฝืนมาตรา ๑๐ แล้ว จึงจะลงโทษตามมาตรา ๓๐ ได้ จำเลยมิใช่บุคคลของพระเจดีย์องค์นี้จึงไม่มีทางที่จะว่า จำเลยฝ่าฝืนมาตรา ๑๐ ฉะนั้น
จึงลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๐ ไม่ได้
พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีอย่างศาลชั้นต้น

Share