คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1223/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ผู้ขายฝากได้ขอไถ่ก่อนครบกำหนด และจำเลยผู้ซื้อฝากได้ยินยอมรับชำระเงินไถ่ถอน และเวนคืนสัญญาขายฝากให้กับโจทก์ ๆ ได้ทำลายสัญญานั้นเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอน ในกำหนดเวลาไว้ในประมวลแพ่ง ฯ มาตรา 494 แล้ว เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการชำระเงินค่าไถ่ถอนให้ไปชำระกันที่อำเภอ โจทก์ย่อมฟ้องจำเลย ขอให้ไปจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้ขายฝากที่นาไว้แก่จำเลย โดยทำสัญญาต่ออำเภอมีกำหนดไถ่ถอน ๑๐ ปี โจทก์ได้ไถ่ถอนที่นาจากจำเลยต่อหน้ากำนันผู้ใหญ่บ้าน และฉีกทำลายสัญญาขายฝากกันไปเสร็จแล้ว บัดนี้จำเลยยังมิได้ไปจดทะเบียนถอนการขายฝากต่ออำเภอ จึงขอให้ชี้ขาดว่าสัญญาที่ทำขายฝากประพฤติกันเป็นการจำนอง เป็นสัญญาจำนอง ให้ที่นาเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ให้จำเลยจดทะเบียนถอนกรรมสิทธิการขายฝาก และห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องในที่นา จำเลยแก้ว่า ที่นาทำกรมธรรม์ต่ออำเภอ ยังไม่ได้ไถ่ถอน บัดนี้พ้นกำหนดการไถ่ถอน ตกเป็นกรรมสิทธิของจำเลยโดยเด็ดขาดแล้ว ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ยังไม่ได้ไถ่ถอนที่พิพาทการขายฝากที่ทำกันที่อำเภอ การไถ่ถอนก็ต้องไถ่ถอนกันที่อำเภอ ไถ่ถอนกันเองใช้ไม่ได้ โจทก์เพิ่งมาฟ้องเมื่อพ้นกำหนดไถ่ถอน พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ได้ขอไถ่ และจำเลยได้รับเงินไถ่ถอนกันเสร็จแล้วก่อนครบกำหนด ต้องถือว่าได้ใช้สิทธิไถ่ถอนในกำหนดแล้ว พิพากษากลับว่า การขายฝากนารายพิพาทได้มีการชำระเงินไถ่ถอนแล้ว ให้จำเลยไปจดทะเบียนถอนการขายฝาก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่โดยฟังว่า ได้มีการชำระเงินค่าไถ่ถอนนากันแล้ว คดีนี้พิพาทกันระหว่างผู้ขายฝากกับผู้ซื้อฝาก ไม่มีกฎหมายบังคับว่า การชำระเงินไถ่ถอนต้องชำระกันที่อำเภอ เป็นแต่ห้ามใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินซึ่งขายฝากเมื่อพ้นกำหนดเวลา แต่โจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอน โดยจำเลยยอมชำระหนี้ทั้งยังได้เวนคืนเอกสารให้ทำลาย ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ได้ใช้สิทธิไถ่ถอนที่พิพาทภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๔๙๔ แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share