คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มอบเงินให้จำเลย ไปหาซื้อกระบือให้โจทก์มิใช่เป็นเรื่องกู้ยืมเงินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เมื่อจำเลยไม่ซื้อกระบือให้โจทก์โจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยได้

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์ได้มอบเงิน 17,620 บาทให้จำเลยที่ 2 ไปซื้อกระบือให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 ซื้อกระบือได้ 10 ตัวแล้ว แต่ยังไม่พอ จำเลยที่ 2 ได้รับรองต่อโจทก์ว่า จะหาซื้อกระบือให้ได้ 15 ตัว ต่อมาจำเลยที่ 2 ได้ให้จำเลยที่ 1 ผู้เป็นบุตรเขยเอากระบือไปขายเสีย แล้วจำเลยที่ 2 ได้เอาเงินมาใช้ให้โจทก์รวม 5,500 บาทยังคงค้างอยู่อีก 12,120 บาท

ศาลชั้นต้นเชื่อว่าเจตนาของโจทก์และจำเลยที่ 2 เป็นเรื่องกู้ยืมเงินกัน เมื่อไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงิน จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ แต่สำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นบุตรเขยจำเลยที่ 2 นั้น ได้ยอมรับว่าได้รับเงินไปทั้งหมดและได้ทำสัญญาให้โจทก์ไว้ในชั้นอำเภอว่า จะชดใช้เงินให้โจทก์ภายในกำหนด 2 เดือน ศาลย่อมบังคับจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินให้แก่โจทก์ได้ จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 12,120 บาทกับดอกเบี้ย ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้เงินให้โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงข้างต้นเป็นเรื่องโจทก์มอบเงินให้จำเลยที่ 2ไปหาซื้อกระบือให้โจทก์ มิใช่เป็นเรื่องกู้ยืมเงินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องจำเลยที่ 2 ได้

Share