คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 นั้น จะต้องปรากฎว่าผู้กระทำผิดได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย เพียงแต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้วก็ขึ้นเรือนปล้นทรัพย์ ยังไม่ครบองค์ความผิดมาตรานี้
คดีฟังได้ว่าจำเลย 3 คนกับพวกอีก 2 คนเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ และคนร้ายได้ใช้ปืนยิงในขณะที่จะหนีเพื่อปกปิดการกระทำความผิดหรือให้พ้นจากการจับกุม กระสุนปืนถูกบุตรีของเจ้าทรัพย์บาดเจ็บสาหัส จำเลยทั้งสามจะมีความผิดฐานพยายามฆ่า เมื่อไม่ได้ความว่าใครเป็นคนยิงและผู้ที่ไม่ได้ยิงได้ร่วมกระทำความผิดในการพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ ย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสามกับพวกอีก ๒ คน ได้ไปปล้นบ้านนางเอ็ง สุวรรณเจริญ นางเอ็งไม่อยู่บ้าน มีแต่นางสาวบังอรบุตรีเฝ้าบ้านแต่ผู้เดียว จำเลยกับพวกแจ้งกับนางสาวบังอรว่าเป็นเจ้าพนักงานมาค้นของเถื่อน นางสาวบังอรไม่ยอมให้ค้น จำเลยกับพวกก็ขึ้นเรือนผลักประตูเข้าปล้นเอาทรัพย์ เมื่อจำเลยกับพวกลงจากเรือนแล้ว นางสาวบังอร ตามไปร้องบอกกล่าว คนร้ายได้ใช้ปืนที่ปล้นเอาไปยิงมาถูกนางสาวบังอรได้รับบาดเจ็บสาหัส
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๓๔๐, ๑๔๕ พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ (ตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษ) แต่ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๓๔๐ อันเป็นความผิดที่มีกำหนดโทษสูง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีความผิดมาตรา ๑๔๕ กระทงหนึ่ง ฐานปล้นทรัพย์และใช้ปืนยิงเวลาปล้น และฐานพยายามฆ่า รวม ๒ บท ตามมาตรา ๓๔๐, ๒๘๘, ๘๐ กระทงหนึ่ง และฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนฯ กระทงหนึ่ง แต่พิพากษายืนในผล
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่าง แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ความผิดตามมาตรา ๑๔๕ ฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานนั้นจะต้องปรากฎว่าจำเลยได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานด้วย เมื่อได้ความเพียงว่าจำเลยแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานแล้วก็ขึ้นเรือนปล้นทรัพย์ การกระทำของจำเลยจึงยังไม่ครบองค์ความผิดมาตรานี้
ส่วนฐานพยายามฆ่าตามมาตรา ๒๔๘, ๘๐ นั้น จะต้องได้ความว่าใครเป็นผู้ลงมือยิงนางสาวบังอรโดยเจตนาฆ่า ถ้าจะเอาผิดแก่จำเลยทั้ง ๓ คน ก็จะต้องได้ความว่าจำเลยทั้ง ๓ คนร่วมกันในการพยายามฆ่า แต่ทางพิจารณาไม่ปรากฎว่าใครเป็นคนยิง และผู้ที่ไม่ได้ยิงได้ร่วมกระทำผิดในการพยายามฆ่าด้วยหรือไม่ จึงลงโทษจำเลยตามมาตรนี้ไม่ได้
พิพากษาแก้ว่าจำลเยไม่มีความผิดตามมาตรา ๑๔๕, ๒๘๘, ๘๐ แห่งประมวลกฎหมายอาญา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share