แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยคนหนึ่งใช้จำเลยร่วมเข้าไปขนของในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหาย โดยจำเลยที่เข้าไปเชื่อว่าทรัพย์เป็นของผู้ใช้ ๆ มีสิทธิจะให้เข้าไปเอามาได้ และได้เข้าไปอยางเปิดเผย เมื่อถูกห้ามก็มิได้ขัดขืน เช่นนี้ อมไม่มีความผิดฐานบุกรุกทางอาญา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนายไผ่ผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันควร และได้ร่วมกันพังประตูห้องและทำให้กระจกตู้แตก ๑ บาน ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นจำเลยไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เพราะตู้กระจกไม่ใช่ของผู้เสียหาย ส่วนข้อหาบุกรุกฟังได้ จึงพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๖๕ (๒) ให้จำคุกคนละ ๓ เดือน และยกฟ้องจำเลยที่ ๕
จำเลยที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ผิดฐานบุกรุก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ ได้เข้าไปในเคหสถานที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายนำสืบไม่ได้แน่ชัดว่าจำเลยเข้าไปโดยกิริยาอาการอุกอาจแต่อย่างใด ต้องฟังว่าจำเลยเข้าไปโดยเปิดเผยโดยดี และการที่จำเลยเข้าไปก็เพื่อขนทรัพย์โดยเชื่อว่าเป็นของจำเลยที่ ๕ ซึ่งผู้เสียหายกับจำเลยที่ ๕ ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ต่ออำเภอแล้ว และจำเลยที่ ๕ ใช้ให้จำเลยไปเอา พฤติการณ์เป็นดังนี้ จะฟังว่าจำเลยทั้ง ๔ มีเจตนาบุกรุกเคหสถานของผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๖๔ ไม่ถนัด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน