คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ทำสัญญาจะขายทรัพย์สินไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอยู่ในขณะทำสัญญานั้นก็ได้ ถ้าหากผู้ขายสามารถจัดการให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิไปโดยชำระราคาตามที่ตกลงกันได้ สัญญาจะซื้อขายนั้นก็ใช้ได้แล้ว
ปีข้อตกลงว่าให้ผู้ขายเก็บผลส้มอันเป็นดอกผลธรรมดาจากที่ดินของผู้ขายซึ่งผู้จะซื้อได้ปลูกต้นส้มขึ้นต่อมาเป็นการชำระราคาบางส่วนและต่อมาปรากฎว่าผู้ขายได้เก็บผลส้มไปตามข้อตกลงนั้นแล้ว ก็ถือได้ว่าผู้ซื้อได้ชำระหนี้บางส่วนตาม ป.พ.พ.ม. 456 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกไปที่ดินซึ่งโจทก์ให้จำเลยอาศัยอยู่
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าโจทก์ให้จำเลยครอบครองที่ดินรายพิพาทโดยให้คำมั่นว่าจะขายให้จำเลยเป็นราคาหนึ่งแสนบาท โดยจำเลยจะชำระเบื้องต้นสองหมื่นบาทหรือให้โจทก์เก็บผลส้มที่จำเลยปลูกมีกำหนด ๕ ปี แทนเงิน ๒ หมื่นบาท จำเลยตกลงซื้อและครอบครองปลูกส้มจนโจทก์เก็บผลส้มไปจากจำเลยครบ ๕ ปีแล้ว ขอให้บังคับให้โจทก์ทำสัญญาขายจดทะเบียนโอนที่รายพิพาทให้จำเลยโดยให้โจทก์รับเงินที่ค้าง ๘๐,๐๐๐ บาทไป
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมโจทก์ไม่เคยให้คำมั่นว่าจะขาย คำมั่นหรือข้อตกลงไม่มีผลบังคับและขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ทำสัญญาขายที่รายพิพาทจดทะเบียนการโอนให้แก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ขับไล่จำเลยออกไปจากที่รายพิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ตกลงขายสวนรายพิพาทให้แก่จำเลยจริง และยอมให้จำเลยเอาที่ดินไปจัดการปลูกต้นส้มขึ้นเมื่อมีผลแล้วให้โจทก์เก็บผลส้มได้ ๕ ปี แทนเงินสองหมื่นบาท มีปัญหาข้อ ก.ม. ว่า (๑) โจทก์ตกลงขายที่ดินตั้งแต่ขณะที่ดินนั้นยังเป็นของมารดาโจทก์ โจทก์ยังไม่ได้รับมรดกมาจะได้หรือไม่ (๒) ข้อสัญญาที่ให้โจทก์เก็บผลส้มในที่ดินของโจทก์เองแทนการที่จำเลยจะต้องชำระเงินสองหมื่นบาทแก่โจทก์นั้นจะเป็นการชำระหนี้บางส่วนอันมีผลบังคับโจทก์ได้หรือไม่ สำหรับข้อแรกศาลฎีกาเห็นว่าผู้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินไม่จำต้องเป็นเจ้าของที่ดินอยู่เสร็จแล้วในขณะนั้นก็ได้ ส่วนข้อสองนั้นเห็นว่าโจทก์ยอมตกลงให้จำเลยปลูกส้มจนเป็นผลให้โจทก์ได้เก็บได้เป็นเวลา ๕ ปี เป็นส่วนหนึ่งของราคาขายที่พิพาทข้อตกลงเช่นนี้ย่อมหาได้ ซึ่งจำเลยได้ปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาข้อนี้จนเสร็จแล้ว ย่อมเป็นการชำระหนี้บางส่วนตาม ป.พ.พ.ม. ๔๕๖ แล้ว ชอบที่จะฟ้องร้องบังคับกันได้ตาม ก.ม.จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น

Share